การประชุมประจำปีเฟดและการเมืองในประเทศ กดดัน SET ทดสอบ 1,605 จุด
ภาพรวมการลงทุนเป็นลบก่อนการประชุมประจำปีเฟด ตลาดคาดว่าประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจยืนยันมุมมองนโยบายการเงินและการขึ้นดอกเบี้ยที่คอ่นข้างตึงตัว (Hawkish)
ในภาวะที่ราคาพลังงานและเงินเฟ้อยังมีความไม่แน่นอน เพื่อไม่ให้ตลาดเกิดความผ่อนคลายจนเกินไป สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ค่าเงินเหรียญสหรัฐฯ และผลตอบแทนพันธบัตรปรับสูงขึ้น กดดันเงินลงทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองของเราที่ประเมิน SET Index มีโอกาสชะลอตัวจาก 1,640-1,650 จุด ลงสู่ 1,585-1,600 จุด ในช่วง 1 เดือน
น้ำมันมีโอกาสผันผวนทางบวกหลังโอเปคมีโอกาสลดกำลังการผลิต ราคาน้ำมันดิบวานนี้ปรับลดลง 4-5% จากความกังวลการชะลอของเศรษฐกิจจีน อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้นจนปิดลบเพียงเล็กน้อยจากเจ้าชายอับดูลาซิส บิน ซัลมาน รม.พลังงานซาอุดิอาระเบีย แสดงความเห็นถึงความเป็นไปได้ในการปรับลดกำลังการผลิตที่อาจเกิดขึ้นในการประชุมโอเปคและพันธมิตร 5 ก.ย. นอกจากนี้ปัจจัยที่อาจผลักดันราคาพลังงาน ยังมาจากเข้าใกล้หน้าหนาวที่ความต้องการพลังงานยุโรปสูง และการติดตามผลของคำสั่งห้ามการซื้อขายน้ำมันจากรัสเซียที่จะมีผล 5 ธ.ค. ที่ครอบคลุมประเด็นห้ามการใช้เงินเหรียญสหรัฐฯ ในการชำระการซื้อน้ำมันรัสเซีย และการห้ามการรับประกันภัยในการขนส่ง ซึ่งจะเป็นปัจจัยให้น้ำมันดิบดีดตัวขึ้นได้
การเมืองในประเทศกดดันบรรยากาศเก็งกำไร ปัญหาวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไม่เกิน 8 ปี นับจากวันโปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรีครั้งแรก 25 ส.ค.57 เป็นปัจจัยที่สร้างแรงกดดันให้กับตลาดจากความไม่แน่นอนทางเมือง อย่างไรก็ตามเราประเมินผลลัพธ์จากกรณีต่างๆ (กฎหมายลูกการเลือกตั้งยังไม่แล้วเสร็จ ทำให้หากยุบสภา กำหนดการเลือกตั้งก็อาจไม่เร็วไปกว่าการสิ้นวาระปกติ 23 มี.ค.65) ทำให้ให้ผลต่อตลาดที่ไม่แตกต่างกันมากนัก ขณะที่การยุบสภา อาจทำให้การเลือกตั้งเกิดเร็วขึ้น แต่จะให้ผลเป็นลบเนื่องจากการผลักดันมาตรการกระตุ้นต่างๆที่ยังไม่แล้วเสร็จ อย่างไรก็ตามเราไม่คิดว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะเลือกแนวทางนี้
ประเด็นเก็งกำไรอื่น 1) กลุ่มได้ประโยชน์จากคนละครึ่งเฟส 5 อาทิ OSP, CBG, ICHI, SAPPE, TNP, KK, MAKRO 2) กลุ่มท่องเที่ยว AOT, CENTEL, ERW, MINT, BAFS, AAV, SHR, VRANDA, SPA 3) กลุ่มเปิดเมือง CPALL, MAKRO, MAJOR, MBK 4) มาตรการสนับสนุน EV ได้แก่ EA, GPSC, PIMO 5) หุ้นได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน BABA80, TENCENT80, CHINA, STAR5001 6) เก็งกำไรทางเทคนิค CPALL, SCGP, TOP, RATCH, CRC, CPF, RS, SC, TH, TLI, BAM
ภาพรวมกลยุทธ์: เก็งกำไรแบบเผื่อตลาดผันผวนลงในช่วง 1 เดือนหน้า เน้นเลือกรายตัวหุ้นที่ยังขึ้นไม่มากและไม่ไล่ราคา ภาพใหญ่เน้นเลือกซื้อ กลุ่มหุ้นเปิดเมือง (ซื้อ: ท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า ธนาคาร กองรีทส์/ สะสมค้าปลีก) สำหรับ DR หุ้นจีน ทยอยสะสม สำหรับการเก็งกำไร เน้นหุ้นที่ยังปรับขึ้นน้อย //หุ้นแนะนำ: SPA*, SVT*, RAM*, TVDH*
แนวรับ: 1,600-1,605 / แนวต้าน : 1,630 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
ประเด็นการลงทุน
ยูโรร่วงหลุด 1 ดอลลาร์ – ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตพลังงานในยุโรป ซึ่งอาจส่งผลให้เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอย
เยอรมนีเผยตัวเลขส่งออกนอก EU หดตัวในเดือนก.ค. - การส่งออกของเยอรมนีไปนอกสหภาพยุโรป (EU) ร่วงลง 7.6% ในเดือนก.ค.เมื่อเทียบรายเดือน หลังปรับตัวเพิ่มขึ้นสามเดือนติดต่อกัน ทำให้เป็นการเริ่มต้นครึ่งหลังของปีที่ย่ำแย่ของเยอรมนี
ค่าใช้จ่ายการว่างงานของจีนพุ่งแตะ $5.4 พันล้าน ในเดือน มิ.ย. – งบใช้จ่ายจากระบบประกันการว่างงานในจีนแตะระดับสูงสุดในเดือน มิ.ย. หลังจากมีการเพิ่มผลประโยชน์จากการว่างงานและการจ่ายให้กับนายจ้างที่ยังคงการจ้างงานอยู่
Zoom ปรับลดประมาณการกำไรทั้งปีลง – หลังจากการเติบโตของรายได้ปรับลดลง yoy จาก 12% มาอยู่ที่ 8% ซึ่งต่ำกว่าคาด (EPS $1.05 vs คาด $0.94) (รายได้ $1.10 พันล้าน vs คาด $1.12 พันล้าน)
'คลัง' เกาะติดหุ้นขุดบิตคอยน์ สั่งก.ล.ต.เฝ้าระวัง – รมว.คลัง กำชับ ก.ล.ต. ตรวจเข้มธุรกิจเหมืองขุดเงินดิจิทัล ยันเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเข้าไปตรวจสอบ ด้าน "ปอศ" เผย ยังไม่พบความผิดปกติของบจ. แจงยังไม่ได้ประสานไปยังก.ล.ต.
พาณิชย์ประกาศประกันรายได้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 4 – และส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูทำนา เพื่อเพิ่มปริมาณข้าวโพดให้มีมากขึ้น
OR จับมือ "กลุ่มดุสิตธานี" เข้าถือหุ้น "ดุสิตฟู้ด" - OR ผนึกความร่วมมือกับ กลุ่มดุสิตธานี ลงทุนถือหุ้นสัดส่วน 25% ใน "ดุสิตฟู้ดส์" เพื่อเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจอาหาร เพื่อสร้างโอกาสเติบโตร่วมกันทั้งในและต่างประเทศ
Opportunity day – 23 ส.ค. – SNP, ITEL, CHEWA, ILINK, HANA, CNT, GUNKUL, BPP, PROSPECT, BANPU, ILM, AHC, HPT / 24 ส.ค. – PF, TVDH, FPI, BEC, LEO, APP, EPG, SMD, HARN, BCP, KK, CRD, HL, NCL / 25 ส.ค. – SHR, OR, TPIPP, THANA, CV, IRPC, FORTH, LALIN, S, PYLON, TQM, PROEN, PLANB, GULF
ประเด็นติดตาม: 23 ส.ค. – US New Home Sales / 24 ส.ค. - US Pending Home Sales / 25 ส.ค. – US GDP / 26 ส.ค. – Jackson Hole Symposium, Fed Chair Powell Speaks, US Core PCE Price Index / 30 ส.ค. – US JOLTs, US CB Consumer Confidence
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)