บลจ.กสิกรไทย แนะลงทุน 4 กองทุนเด่น เน้นเสริมพอร์ตฟิต พิชิตผันผวน
บลจ.กสิกรไทย เผยเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวในเอเชียโดยเฉพาะจีน เวียดนาม มองเป็นจังหวะเข้าซื้อเพื่อคว้าโอกาสทำกำไรผ่าน 4 กองทุนเด่น ทยอยลงทุน เน้นเสริมพอร์ตให้ฟิต พิชิตความผันผวน พร้อมมอบสิทธิพิเศษ 2 ต่อ สำหรับลูกค้าใหม่ในระหว่างวันที่ 15 ก.ค. – 30 ก.ย.นี้
นายสุรเดช เกียรติธนากร กรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังมีความผันผวนที่ค่อนข้างสูง ทั้งจากสถานการณ์โควิด-19 ความตึงเครียดทางการเมือง และภาวะเงินเฟ้อ อย่างไรก็ดี คาดว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวลงหลังไตรมาสที่ 3 และอัตราการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed จะเริ่มชะลอตัวลง ส่งผลให้ผู้ลงทุนคลายความกังวล และหันมาให้น้ำหนักกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียนก่อนเข้าลงทุน
ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะในจีน และเวียดนาม อีกทั้งมองว่าภายในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้านี้ เป็นจังหวะที่ผู้ลงทุนสามารถทยอยลงทุนได้ จึงขอแนะนำ 4 กองทุนเด่น ได้แก่ K-CHX, K-VIETNAM, K-GINCOME-A(R) และ K-SF
ตลาดหุ้นจีนกลับมามีความน่าสนใจอีกครั้ง โดยมีปัจจัยสนับสนุนมาจากนโยบายเศรษฐกิจแบบผ่อนคลาย ซึ่งสวนทางกับประเทศอื่นๆ ที่มีทิศทางนโยบายเศรษฐกิจเป็นแบบตึงตัวมากขึ้น และจีนไม่ประสบปัญหาภาวะเงินเฟ้อ เนื่องจาก ไม่ได้อยู่ในวงจรของการขึ้นดอกเบี้ยอย่างสหรัฐ และยุโรป จึงทำให้จีนมีความได้เปรียบกว่าประเทศอื่นในมุมของสภาพคล่อง
นอกจากนี้ ระดับราคาหุ้นปัจจุบันต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวในอดีต และได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว เนื่องจาก ตลาดรับรู้ปัจจัยลบในช่วงที่ผ่านไปเยอะแล้ว โดยกองทุนหุ้นจีนที่น่าสนใจ คือ กองทุน K-CHX มีนโยบายลงทุนในหุ้นจีนขนาดใหญ่ที่สุด 50 ตัวแรกในตลาด A-Share เน้นหุ้นกลุ่ม Old Economy เช่น การบริโภคและการเงิน ที่จะกลับมาเติบโตสูงจากการบริโภคภายในประเทศ ทั้งนี้ หากต้องการลงทุนในระยะยาว พร้อมรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีก็สามารถมาลงทุนในกองทุน K-CHINA-SSF และ K-CHINA-RMF ได้
สำหรับอีกหนึ่งตลาดที่น่าจับตาในฐานะ “เสือเศรษฐกิจตัวใหม่ของเอเชีย” นั่นคือ ตลาดหุ้นเวียดนาม ซึ่งมีความน่าสนใจใน 4 มิติ ได้แก่ 1) เศรษฐกิจในประเทศเติบโตได้ดี จากภาคการส่งออก และเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ ในขณะที่ภาวะเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับที่จัดการได้ 2) นโยบายภาครัฐหนุนให้มีการลงทุนจากต่างชาติ โดยมุ่งเน้นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อยกระดับความสามารถสู่การแข่งขันในระดับภูมิภาค 3) จำนวนประชากรวัยแรงงานมีสัดส่วนสูงที่สุดในอาเซียน เอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะยาว และ 4) ระดับราคาหุ้นยังไม่สูงมากนัก โดยคาดว่าตลาดหุ้นเวียดนามจะเติบโต +17.5% ในปีนี้ และ +19.2% ในปีหน้า ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย มีกองทุนหุ้นเวียดนามให้เลือกลงทุน 2 รูปแบบ ได้แก่ K-VIETNAM และ K-VIETNAM-RMF ซึ่งทั้ง 2 กองทุนมีนโยบายลงทุนเดียวกันคือ เน้นลงทุนตรงในหุ้นเวียดนาม และลงทุนบางส่วนในกองทุนรวมต่างประเทศที่ลงทุนในหุ้นเวียดนาม ซึ่งรวมถึง ETF ด้วย โดยในช่วงที่ผ่านมากองทุนมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น สามารถเอาชนะดัชนีชี้วัดได้ในทุกช่วงเวลา
“สำหรับผู้ที่ยังมีความกังวลต่อความผันผวนในตลาด และรับความเสี่ยงได้ปานกลาง ขอแนะนำกองทุน K-GINCOME-A(R) มีนโยบายลงทุนผ่านกองทุนหลัก JPMorgan Investment Funds – Global Income Fund, Class I (mth) - USD (hedged) ที่กระจายลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลกกว่า 3,000 ตัว เน้นสินทรัพย์ที่มีการจ่ายรายได้สม่ำเสมอ โดยผู้จัดการกองทุนจะปรับสัดส่วนสินทรัพย์แต่ละประเภทให้เหมาะสมตามสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลา ผู้ลงทุนจึงสามารถทยอยลงทุนในกองทุนนี้ได้ในทุกสถานการณ์ อีกทั้งผู้ลงทุนจะยังได้รับผลตอบแทนระหว่างการลงทุนคล้ายกับการได้รับเงินปันผลแต่ไม่ต้องเสียภาษี นอกจากนี้ ผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนในระยะยาว และรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีได้กับกองทุน K-GINCOME-SSF ซึ่งมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่เกิน 4 ครั้งต่อปี” นายสุรเดชกล่าว
สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้น้อย และต้องการพักเงินในระยะสั้นเพื่อหาโอกาสทำกำไรที่ได้รับผลตอบแทนมากกว่าเงินฝาก ขอแนะนำกองทุน K-SF ที่มีนโยบายลงทุนในเงินฝาก ตราสารหนี้ภาครัฐและเอกชน ทั้งในและต่างประเทศ โดยเน้นตราสารหนี้ไทยระยะสั้นที่มีเครดิตดี ด้วยทีมผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์สูงในตลาดตราสารหนี้ไทย การันตีฝีมือได้จาก 3 รางวัลแชมป์จากเวทีในระดับประเทศ และระดับสากล ได้แก่ รางวัล Most Prominent Fund House in Corporate Bond Market (5 ปีซ้อน) จาก ThaiBMA Best Bond Awards 2021, รางวัล Top Investment Houses in Asian Local Currency Bond (8 ปีซ้อน) จาก The Asset Benchmark Research Awards 2021 และรางวัล Best Fund House - Domestic Fixed Income จาก Morningstar Fund Awards 2022
นายสุรเดช กล่าวเพิ่มเติมว่า ในระหว่างวันที่ 15 ก.ค. – 30 ก.ย. 65 บลจ.กสิกรไทย ขอมอบสิทธิพิเศษ 2 ต่อ ให้กับลูกค้าใหม่ที่ยังไม่เคยเปิดบัญชีกองทุนกสิกรไทย โดยต่อที่ 1: เปิดบัญชีกองทุนกสิกรไทยครั้งแรกผ่าน K PLUS หรือ K-My Funds รับหน่วยลงทุน K-CASH มูลค่า 200 บาท และต่อที่ 2: ลงทุนในกองทุน K-CHX, K-VIETNAM, K-GINCOME-A(R), K-SF หรือกองทุนอื่นๆ ที่ร่วมรายการ ผ่าน K PLUS และ/หรือ K-My Funds ทุก 50,000 บาท รับหน่วยลงทุน K-CASH มูลค่า 100 บาท (สูงสุด 2,000 บาท/ท่าน)
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์