“คปภ. - สอบสวนกลาง” จับผู้ต้องหาแล้ว 14 ราย ผิดฉ้อฉลประกันภัย
คปภ.ลงนาม MOU ตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมเชื่อมโยงข้อมูลดำเนินคดีผู้กระทำความผิดฐานฉ้อฉลประกันภัย ล่าสุดจับผู้ต้องหาแล้ว 14 ราย
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับ และส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ได้บูรณาการร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์เพื่อใช้ประโยชน์ในการดำเนินคดี และการประสานข้อมูลเกี่ยวกับการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมมือในการเชื่อมโยง แลกเปลี่ยน และเปิดเผยข้อมูลดิจิทัลเกี่ยวกับข้อมูลการฉ้อฉลประกันภัย ที่มีการจัดทำ และครอบครองโดยสำนักงาน คปภ. เพื่อประโยชน์ในการสืบสวน สอบสวน ป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และเป็นการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชน รวมทั้งประสานงานดำเนินการทางคดีที่เกี่ยวกับการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิต กฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัย หรือกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ
สำหรับขอบเขตความร่วมมือดำเนินโครงการหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องระหว่างหน่วยงานตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้มี 4 ประเด็นหลักๆ คือ ประเด็นแรก สำนักงาน คปภ. และ บช.ก. จะเชื่อมโยงเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลดิจิทัลเกี่ยวกับข้อมูลการประกันภัย และข้อมูลการฉ้อฉลประกันภัย ที่มีการจัดทำ และครอบครองโดยสำนักงาน คปภ. ตามที่ได้รับการร้องขอจาก บช.ก. เพื่อประโยชน์ในการสืบสวน สอบสวน ป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และเป็นการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชน ทั้งนี้ ภายใต้กรอบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประเด็นที่ 2 บช.ก. จะพัฒนา และเชื่อมโยงระบบตรวจสอบบุคคลเพื่อเฝ้าระวัง และป้องกันปราบปรามอาชญากรรมกับสำนักงาน คปภ. ตามช่องทางที่ได้ตกลงกัน
ประเด็นที่ 3 บช.ก. จะประสานงาน และดำเนินการทางคดีให้สำนักงาน คปภ. เกี่ยวกับการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิต กฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัย หรือกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ
และประเด็นที่ 4 ในการดำเนินโครงการหรือกิจกรรมภายใต้บันทึกข้อตกลงนี้ สำนักงาน คปภ. และ บช.ก. ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายว่าด้วยการข้อมูลข่าวสารของราชการ กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กฎหมายว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ระเบียบที่คณะรัฐมนตรีกำหนดว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ เป็นต้น และต้องไม่นำข้อมูลจากทั้งสองฝ่ายไปใช้ในทางที่ก่อให้เกิดความเสียหาย หรือก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่เจ้าของข้อมูล หากมีความเสียหายใดๆ ที่เกิดจากการกระทำของผู้ที่นำข้อมูลไปใช้จะต้องรับผิดทั้งในทางอาญา หรือทางแพ่งแล้วแต่กรณี
นายสุทธิพล กล่าวด้วยว่า จากความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านประกันภัยระหว่างสำนักงาน คปภ. และ บช.ก. อย่างใกล้ชิด ส่งผลให้การดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดด้านฉ้อฉลประกันภัยมีความรอบคอบ รัดกุม รวดเร็ว และเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย โดยเห็นได้จากความคืบหน้าของการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดด้านประกันภัย ตามที่สำนักงาน คปภ. ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษไว้ก่อนหน้านี้ จึงได้มอบหมายให้นายชัยยุทธ มังศรี รองเลขาธิการ ด้านกฎหมาย คดี และคุ้มครองสิทธิประโยชน์ นายอดิศร พิพัฒน์วรพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการ สายกฎหมาย และคดี ร่วมแถลงข่าวกับ พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ผบ.ปอศ.) เกี่ยวกับความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับผู้ที่ถูกร้องทุกข์กล่าวหาดังกล่าว โดย พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่สำนักงาน คปภ. เข้าหารือ และร้องทุกข์กล่าวโทษกับผู้ที่มีพฤติกรรมฉ้อฉลประกันภัยจำนวน 27 เรื่อง เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 ต่อจากนั้นพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ได้ดำเนินการขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 23 ราย ต่อศาลอาญา และได้ติดตามจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาที่ปลอมเอกสารผลการตรวจโรคโควิด-19 เพื่อนำไปเรียกร้องผลประโยชน์จากการทำประกันโดยทุจริต จำนวน 11 ราย และจับกุมตัวแทนบริษัทประกันชีวิตที่หลอกลวงให้คนทั่วไปเข้าทำสัญญาประกันชีวิต แต่ภายหลังกลับไม่ได้ดำเนินการให้มีการทำสัญญาประกันภัยเกิดขึ้นหรือไม่ ดำเนินการรักษาสถานะของสัญญาประกันชีวิตดังกล่าว จำนวน 3 ราย รวมจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 14 ราย จาก 23 ราย โดยพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. อยู่ระหว่างดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
“การฉ้อฉลประกันภัยส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้เอาประกันภัยผู้บริสุทธิ์ และเป็นอันตรายต่อระบบประกันภัย โดยการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดฐานฉ้อฉลประกันภัยในครั้งนี้ เพื่อบังคับใช้บทบัญญัติในเรื่องการฉ้อฉลประกันภัยให้เกิดประสิทธิภาพ และเป็นการป้องกันมิให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องตกเป็นเหยื่อของผู้ที่ฉวยโอกาส สำนักงาน คปภ. จะร่วมมือกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางอย่างเต็มที่ในการบังคับกฎหมายอย่างเคร่งครัด และเด็ดขาด เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และยกระดับความคุ้มครองสิทธิประโยชน์ด้านการประกันภัยให้กับประชาชน และระบบประกันภัยของไทย ให้มีความมั่นคงบนความเชื่อมั่นของประชาชนที่ยั่งยืนต่อไป”
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์