‘เอสซีจี ไฮม์’รุกตลาดรีบิลด์แก้ปัญหาได้บ้านไม่ตรงปก

‘เอสซีจี ไฮม์’รุกตลาดรีบิลด์แก้ปัญหาได้บ้านไม่ตรงปก

1-2 ปีที่ผ่านมา พบว่า ตลาดรีบิลด์หรือตลาดรับสร้างบ้านบนที่ดินตัวเองมีแนวโน้มเติบโตกว่า 50% ส่วนหนึ่งมาจากแผนของลูกค้าที่ต้องการสร้างบ้านอยู่แล้ว จึงเลือกที่สร้างกับบริษัทรับสร้างบ้านเพื่อแก้ปัญหาได้บ้านไม่ตรงปก

ยิ่งมีปัจจัยกระตุ้นต่าง ๆ เช่น ราคาวัสดุก่อสร้าง ราคาน้ำมัน เป็น"ตัวเร่ง"การตัดสินใจให้เร็วขึ้น  ปัจจัยที่ส่งผลให้ตลาดรีบิลด์ขยายตัวยังมาจากที่ดินเริ่มหายากขึ้น โดยเฉพาะทำเล "กลางเมือง" ทำให้ความต้องการส่วนหนึ่งเข้าไปซื้อบ้านแล้วทำการรีบิลด์ เพื่อให้ได้บ้านสวยตรงใจบนทำเลที่ต้องการ

 อีกส่วนมาจากการส่งต่อบ้านพร้อมที่ดินจากรุ่นสู่รุ่นหรือทรัพย์สินมรดก ซึ่งอายุและโครงสร้างบ้านมีอายุหลายปี ทำให้มีข้อจำกัดหากมีการต่อเติม ผู้บริโภคมองหาบ้านที่ตอบโจทย์ชีวิตไฮบริด เพราะหลังโควิด-19 เข้ามาส่งผลให้ทุกคนใช้ชีวิตที่แตกต่างไปจากเดิม อาทิ ทำงานที่บ้าน หรือเรียนที่บ้านมากขึ้น

ขณะเดียวกันก็มองหานวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามาสร้างความปลอดภัยให้กับตัวเองและคนในครอบครัว ซึ่งก็เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ดีมานด์ในตลาดแนวราบ รวมถึงตลาดรับสร้างบ้านขยายตัวในช่วงที่ผ่านมา จากความต้องการพื้นที่ใช้สอยกว้างขึ้น และฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลายเหมาะกับสมาชิกในบ้านที่มีหลายช่วงวัย

"วีระเดช โกวพัฒนกิจ" ผู้จัดการการตลาด บริษัท เอสซีจี เซกิซุย-เซลส์ จำกัด  เผยว่า แนวโน้มและพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้บริโภคเปลี่ยนไป โดย 3 ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจสร้างบ้านในยุคนี้คือ บริการที่ครบวงจร คุณภาพ และเรื่องสุขภาพของสมาชิกในครอบครัว รวมทั้งการดีไซน์ ฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้อยู่อาศัย  

 “ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตมากขึ้น ทั้งด้านสุขภาพ สุขอนามัย และสร้างพื้นที่ความสุขในการอยู่อาศัยให้กับตัวเองและครอบครัว ด้วยการมองหาสิ่งที่มาเติมเต็มชีวิต และหลีกหนีความวุ่นวายจากสังคมภายนอก”
 

สิ่งที่เห็นการเปลี่ยนแปลงคือ ลูกค้าต้องการพื้นที่เอนกประสงค์รองรับกิจกรรมของทุกคนในบ้าน รวมถึงปรับใช้เป็นห้องทำงาน ห้องเรียน ห้องสันทนาการที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ด้านนอก รวมถึงต้องการให้มีห้องนอนชั้นล่างสำหรับผู้สูงอายุ 

ทางเอสซีจี ไฮม์ มี 150 แบบบ้าน ที่รองรับให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัย เพราะการใช้ชีวิตวิถีใหม่ บ้าน"ไม่ใช่" พื้นที่อยู่อาศัยอย่างเดียว แต่เป็นพื้นที่ทำกิจกรรม ทำงาน สังสรรค์

‘เอสซีจี ไฮม์’รุกตลาดรีบิลด์แก้ปัญหาได้บ้านไม่ตรงปก

ด้วยเหตุนี้พื้นที่บ้านจึงต้องใหญ่กว่าการอยู่อาศัย และจากพื้นที่ที่ขยายก็ทำให้มูลค่าบ้านเพิ่มขึ้น พร้อมทั้ง พัฒนาเทคโนโลยีที่ดีต่อคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย ซึ่งนับได้ว่าผู้บริโภค ให้การตอบรับเป็นอย่างมากในการนำมาใช้ในบ้านปัจจุบัน

ได้แก่  Air Tightness System การประกอบบ้านปิดช่องว่าง ทุกรอยต่อทั้งประตู หน้าต่างและผนัง และ Air Factory System ระบบหมุนเวียนอากาศพร้อมไส้กรอง 3 ชั้น ทำหน้าที่กรองอากาศจากภายนอกเข้าสู่บ้านเพื่อความสะอาดและลดกลิ่นรบกวนจากภายนอก
 

ระบบไอออนไนเซอร์  เทคโนโลยีกรองอากาศภายในบ้าน ด้วยการปล่อยไอออน อนุภาคไฟฟ้าประจุลบและบวกในอากาศ ที่สามารถช่วยลดปริมาณเชื้อรา สารฟอร์มาลดีไฮด์ ไวรัส และสารก่อภูมิแพ้จากไรฝุ่นในอากาศก่อนนำเข้าสู่ภายในบ้าน 

 นายวีระเดช กล่าวว่า ตลาดรีบิลด์ เป็น "โอกาส"ของเอสซีจี ไฮม์ ในการส่งมอบบริการสร้างบ้านที่มีคุณภาพให้กับลูกค้า ซึ่งจะดำเนินการไปพร้อมกับการตอบโจทย์ความต้องการของคนที่เตรียมสร้างบ้านใหม่ในปีนี้และในอนาคต “มาตรฐาน” ที่เอสซีจี ไฮม์ ยึดมั่นในการส่งมอบงานคุณภาพให้กับลูกค้ามาโดยตลอดคือ มาตรฐานงานก่อสร้างและ มาตรฐานงานบริการ

‘เอสซีจี ไฮม์’รุกตลาดรีบิลด์แก้ปัญหาได้บ้านไม่ตรงปก

ขณะที่ “มาตรฐานงานก่อสร้าง”ของเอสซีจี ไฮม์ ผลิตด้วยเทคโนโลยีจากประเทศญี่ปุ่น ในส่วนของโครงสร้างกว่า 80% แล้วเสร็จที่โรงงาน จากนั้นแล้วนำมาประกอบที่หน้างานโดยใช้ระบบ Modular โดยระหว่างการผลิตจะมีระบบตรวจสอบคุณภาพในโรงงานด้วยหุ่นยนต์

 จากประสบการณ์กว่า 13 ปี เอสซีจี ไฮม์ สร้างการรับรู้แบรนด์ผ่านการพัฒนาด้านคุณภาพงานก่อสร้างและบริการอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับเทรนด์พฤติกรรมการอยู่อาศัย-ใช้ชีวิตของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไป

‘เอสซีจี ไฮม์’รุกตลาดรีบิลด์แก้ปัญหาได้บ้านไม่ตรงปก

 “เอสซีจี ไฮม์ ขอเป็นตัวเลือกแรกที่ดีที่สุดให้กับลูกค้ากลุ่มครอบครัวใน 74 จังหวัดทั่วประเทศ ที่กำลังมองหาบ้านแนวราบหลังใหม่ และ สร้างบ้านหลังใหม่บนที่ดินเดิม หรือ รีบิลด์ ซึ่งจนถึงวันนี้เราได้ส่งมอบบ้านคุณภาพให้กับลูกค้ามากกว่า 1,200 ครอบครัว” นายวีระเดช กล่าว