‘รับสร้างบ้าน’ฟื้นสวนศก.ซึมชี้เทรนด์บ้านหรู-ประหยัดพลังงานมาแรง
ตลาดรับสร้างบ้านครึ่งปีหลัง 2565 ฟื้นสวนศก.ซึม ชี้เทรนด์บ้านหลังใหญ่ ทำเลกรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยว เขาใหญ่ พัทยา ระดับราคา 5-10 ล้านบาท ได้รับความนิยมสูง ขณะที่ตลาดต่างจังหวัด ราคา 2.5-3.5 ล้านบาทมาแรง
วรวุฒิ กาญจนกูล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน กล่าวว่า ตลาดรับสร้างบ้านครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง พิจารณาจากยอดสั่งสร้างบ้านที่เติบโตในกลุ่มบ้านระดับราคา 5-10 ล้านบาท และกลุ่มบ้านหรูระดับ 10 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ และจังหวัดใหญ่ รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม เช่น เขาใหญ่ พัทยา ส่วนใหญ่สร้างเป็นบ้านหลังที่ 2
ขณะที่ตลาดรับสร้างบ้านในต่างจังหวัด ความต้องการหลักอยู่ในกลุ่มบ้านราคา 2.5-3.5 ล้านบาท โดยมีปัจจัยมาจากผู้ที่เคยจ้างช่างทั่วไป เริ่มหันมาใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้านมากขึ้น การขยายตัวของเศรษฐกิจในจังหวัดท่องเที่ยวที่เริ่มมีนักท่องเที่ยวกลับมา ส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว และดีมานด์ที่แท้จริงจากผู้บริโภคที่มีความพร้อมสำหรับปลูกสร้างบ้านหลังใหม่ให้กับตนเองและครอบครัว
โดยครึ่งปีแรกยอดจองสร้างบ้านในเดือน มี.ค. มีมูลค่า 3,600 ล้านบาท สูงในรอบ 5 ปี คาดสิ้นปีนี้ตลาดรับสร้างบ้านกลับมาฟื้นตัวเท่าปี 2562 ก่อนโควิด-19 ด้วยมูลค่า 12,000 ล้านบาท สวนทางปัจจัยลบ ไม่ว่าจะภาวะเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจในประเทศ ซบเซา รวมถึงสถานการเมือง
"ลูกค้าเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ เตรียมตัวที่จะสร้างบ้านอยู่แล้ว ประกอบกับปัจจัยบวกจีดีพีครึ่งปีแรกโต 2.4% การท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว โควิดคลี่คลาย รัฐผ่อนคลายมาตรการช่วยกระตุ้นให้ธุรกิจกลับมา ผู้บริโภคมีความมั่นใจสร้างบ้านมากขึ้น เชื่อว่า ปีนี้จะเป็นปีที่ดีที่สุดอีกปีหนึ่งของธุรกิจรับสร้างบ้านสวนกระแสปัจจัยลบที่เข้ามาต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นเงินเฟ้อ แรงงานขาดแคลน ดอกเบี้ยขาขึ้น”
ปัจจัยลบ ที่อาจเข้ามามีผลกระทบต่อธุรกิจรับสร้างบ้าน อาทิ การระบาดของโรคสายพันธุ์ใหม่ อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ที่ส่งผลกระทบต่อกลุ่มลูกค้าระดับราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาทค่อนข้างมาก ส่วนกลุ่มที่มีกำลังซื้อบ้านระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ ไม่กู้เงินธนาคาร นิยมใช้เงินสด ผู้ประกอบการรับสร้างบ้านส่วนใหญ่จึงหันมารับสร้างบ้านราคา 5-10 ล้านบาทมากขึ้น
“ปลายปีนี้ ตลาดรับสร้างบ้าน (สมาคมฯ) จะมีมูลค่า 12,500 ล้านบาท กลับมาเท่าปี 2562 ก่อนโควิด ซึ่งช่วงโควิดเคยลงต่ำสุด 11,000 ล้านบาท ในปี 2563 ส่วนปี 2564 ขยับขึ้นมา 5% อยู่ที่ 11,500 ล้านบาท”
ภาพรวมของ “ราคา” รับสร้างบ้านต้นปี 2565 ปรับขึ้น 10% ในส่วนบ้านหลังใหญ่ ซึ่งไม่มีผลกระทบมากนัก เพราะลูกค้าเข้าใจสถานการณ์ต้นทุนที่ปรับขึ้น ยกเว้นกลุ่มลูกค้าบ้านระดับราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาทได้รับผลกระทบทำให้ชะลอการสร้างไปก่อน
ปัจจุบันผู้ประกอบการรับสร้างบ้านยังรอดูสถานการณ์ก่อน เพราะต้นทุนวัสดุก่อสร้างครึ่งปีหลังเพิ่มขึ้นแน่นอน อย่างน้อย 3% ต้องรอดูว่าบริษัทรับสร้างบ้านโดยรวมสามารถแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้มากน้อยแค่ไหน ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ “ราคา” เป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจสร้างบ้าน
“แนวโน้มวัสดุและค่าแรงปรับราคาขึ้นแน่นอน เพราะแรงงานยังขาดแคลนอยู่บ้าง ส่วนวัสดุหลักที่ขึ้นราคา คือ ซีเมนต์ เป็นผลมาจากต้นทุนราคาถ่านหินซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตซีเมนต์ขึ้นราคาไปไกลมากแล้ว มีแนวโน้มปรับราคาขึ้นหลังจากที่อั้นมานานล่าสุดปรับราคาขึ้นมา 400 บาทต่อคิวแต่โชคดีที่ราคาเหล็กลดลงมา ถือเป็นปัจจัยลบที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด”
อย่างไรก็ดี เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงก่อนส่งท้ายปี สมาคมฯ เตรียมจัดงานรับสร้างบ้านและวัสดุเอ็กซ์โป 2022 ภายใต้แนวคิด “สร้าง-เปลี่ยน-โลก” วันที่ 14-18 ก.ย. มีบริษัทรับสร้างบ้านและบริษัทวัสดุรวมกว่า 40 บริษัท พร้อมแบบบ้านมากกว่า 1,000 แบบ ตั้งแต่ 1-100 ล้านบาท
โดยเทรนด์แบบบ้านปีนี้เน้นความทันสมัย ดีไซน์ใกล้ชิดธรรมชาติและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ใส่ใจเรื่องสุขอนามัย สะดวกด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ประหยัดพลังงาน และใช้พลังงานทดแทน ไฮไลต์อยู่ที่นิทรรศการ “บ้านประหยัดพลังงาน” การนำเสนอบ้านที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นวัตกรรมวัสดุก่อสร้าง วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นับเป็นเทรนด์บ้านยุคใหม่ที่มุ่งเน้นการช่วยประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม