สุพัฒนพงษ์ ปัดตอบปม พ.ร.ก.ค้ำหนี้กองทุนน้ำมัน ชี้ภาษีลาภลอยต้องออก พ.ร.บ.

สุพัฒนพงษ์ ปัดตอบปม พ.ร.ก.ค้ำหนี้กองทุนน้ำมัน ชี้ภาษีลาภลอยต้องออก พ.ร.บ.

"สุพัฒนพงษ์" ปัดตอบวาระลับ ครม.ออกพ.ร.ก.ค้ำประกันหนี้กองทุนน้ำมันกู้เงิน 1.5 แสนล้านบาท ตอบปมถ้าต้องออกภาษีลาภลอยจากโรงกลั่นต้องออกเป็น พ.ร.บ.

เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา มีวาระลับเรื่องการพิจารณาร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระหนี้ ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. …. และการกู้ยืมเงินของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ซึ่งมีวงเงินกู้ยืมของกองทุนน้ำมัน 1.5 แสนล้านบาท ว่าเรื่องนี้เป็นวาระลับ  

เมื่อถามว่าหากมีการส่งพ.ร.ก.ดังกล่าวไปให้ไปเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร แล้วสภาไม่เห็นด้วยรัฐบาลจะทำอย่างไรต่อไป

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ก็เรื่องนี้ออกเป็นพ.ร.ก. ทั้งนี้เราก็เสนอหลายวิธี  

 

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าในพ.ร.ก.ดังกล่าวระบุวงเงินกู้ยืมของกองทุนน้ำมัน 1.5 แสนล้านบาท ใช่หรือไม่นายสุพัฒนพงษ์ไม่ตอบคำถามแล้วเดินเข้าไปในตึกภักดีบดินทร์ เพื่อร่วมการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน

เมื่อถามว่าจะเป็นการเพิ่มภาระหนี้สินให้กับประชาชนอีกหรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่าสั้นเพียงว่า "อ้อ"

ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุใดจึงไม่ออกกฎหมายภาษีลาภลอยเพื่อนำเงินดังกล่าวมาใช้ นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่าเรื่องภาษีลาภลอยต้องออกเป็นกฎหมายพระราชบัญญัติ  

ก่อนหน้านี้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การที่ ครม.เห็นชอบร่างพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระหนี้ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. .... และการกู้ยืมเงินของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอเข้ามาสู่การพิจารณาเป็นวาระลับ

นายวิษณุกล่าวว่าในเรื่องนี้กระทรวงพลังงานควรจะมีการชี้แจง แต่ก็คงจะไม่ชี้แจงเนื่องจากวาระนี้เป็นวาระลับ ต้องรอให้มีการออกกฎหมาย ให้สมบูรณ์ซึ่งในที่นี้คือรัฐสภาซึ่งหมายถึงสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภารับทราบตามที่รัฐบาลรายงานให้รับทราบก่อนหากไม่มีการทักท้วงก็จะถือว่าเป็นกฎหมาย 100%

ทั้งนี้ขั้นตอนการดำเนินการของการออก พ.ร.ก.หลังจาก ครม.เห็นชอบแล้วขั้นตอนต่อไปจะส่งไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ก่อนที่จะประกาศเป็นราชกิจจานุเบกษา จากนั้นจึงเสนอเข้าสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา

“ในช่วงระหว่างขั้นตอนการพิจารณานี้ กองทุนน้ำมันฯ ก็คงยังไม่กล้ากู้ เพราะต้องรอขั้นตอนสภาก่อน โดยได้คุยกันใน ครม.ก่อนแล้วว่า ไม่ต้องรีบร้อนกู้ และไม่จำเป็นต้องใช้การกู้เงินมากขนาดนั้น ส่วนวงเงินเท่าไหร่นั้นขอให้กระทรวงการคลังชี้แจงดีกว่า”