การรถไฟฯ เล็งประมูลส่วนต่อขยายสายสีแดง ส่งท้ายปีกว่า 2.1 หมื่นล้าน
การรถไฟฯ ชง ครม. ปรับกรอบวงเงินโครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสีแดง ดันเปิดประมูลงานโยธารวดเดียว 3 เส้นทางส่งท้ายปีนี้ เม็ดเงินรวมกว่า 2.1 หมื่นล้านบาท พร้อมตั้งเป้าเปิดพีพีพีเดินรถทั้งระบบภายในปี 2567
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง (ส่วนต่อขยาย) โดยระบุว่า ขณะนี้ ร.ฟ.ท.ได้เสนอขออนุมัติปรับกรอบวงเงินโครงการดังกล่าวไปยังกระทรวงคมนาคมแล้ว เพื่อเตรียมเสนอขออนุมัติจากทางคณะรัฐมนตรี (ครม.) และผลักดันให้มีการเปิดประกวดราคาภายในปีนี้
โดยเบื้องต้น ร.ฟ.ท.ได้เสนอปรับกรอบวงเงิน 3 โครงการ ได้แก่ ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ระยะทาง 14.8 กิโลเมตร(กม.) วงเงิน 10,670 ล้านบาท, ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช ระยะทาง 5.7 กม. วงเงิน 4,694 ล้านบาท และช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(ศูนย์รังสิต) ระยะทาง 8.84 กม. วงเงิน 6,468 ล้านบาท รวมโครงการส่วนต่อขยายรถไฟชานเมืองสายสีแดงที่จะมีการเปิดประมูลส่งท้ายปีนี้มีมูลค่าราว 2.18 หมื่นล้านบาท
สำหรับ 3 โครงการดังกล่าว ก่อนหน้านี้ได้ผ่านความเห็นชอบจาก ครม. แล้ว แต่ปัจจุบันสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม มีหลายปัจจัยที่ทำให้ต้นทุนก่อสร้างเพิ่มขึ้น อาทิ ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น จากเดิม 25 บาทต่อลิตร เป็น 35 บาทต่อลิตร อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ จากเดิม 31.5 บาทต่อดอลลาร์ เป็น 35 บาทต่อดอลลาร์ และค่าวัสดุก่อสร้างต่างๆ ที่เพิ่มสูงขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อ ส่งผลให้ ร.ฟ.ท.ต้องทบทวนราคาค่าก่อสร้าง
ทั้งนี้ การปรับกรอบวงเงินแต่ละโครงการ ประกอบด้วย ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา เดิมมีกรองวงเงินตามที่ ครม.อนุมัติเมื่อเดือน ก.พ.2562 วงเงิน 10,202.18 ล้านบาท ปัจจุบันได้ปรับแบบมีงานก่อสร้างเพิ่ม 2 สถานี ได้แก่ สถานีบางกรวย-กฟผ. และสถานีสะพานพระราม 6 ทำให้กรอบวงเงินเดิมไม่เพียงพอ จึงต้องเสนอขอเพิ่ม 468.09 ล้านบาท ส่งผลให้วงเงินกรอบใหม่อยู่ที่ 10,670.27 ล้านบาท
ส่วนช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช ก่อนหน้านี้ ครม.อนุมัติเมื่อเดือน มี.ค.2562 วงเงิน 6,645.03 ล้านบาท แต่ได้ปรับลดวงเงินลง 1,950.67 ล้านบาท เนื่องจากเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานในส่วนของการจัดหาขบวนรถ 4 ตู้ 4 ขบวน มาอยู่ในการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) งานเดินรถ งานระบบตั๋ว จัดหาขบวนรถ และการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) ทำให้กรอบวงเงินใหม่อยู่ที่ 4,694.36 ล้านบาท
ขณะที่ช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(ศูนย์รังสิต) ก่อนหน้านี้ ครม.อนุมัติเมื่อเดือน ก.พ.2564 วงเงิน 6,570.40 ล้านบาท ปัจจุบันมีการปรับแบบ แต่ภาพรวมงานโยธาไม่เปลี่ยนแปลงมาก และปรับขอบเขตงานให้น้อยลง รวมถึงค่าเวนคืนที่ดินลดลง ส่งผลให้กรอบวงเงินจึงลดลงจากเดิม 101.71 ล้านบาท กรอบวงเงินใหม่จึงอยู่ที่ 6,468.69 ล้านบาท
นายนิรุฒ กล่าวด้วยว่า ส่วนช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก และช่วงบางซื่อ –หัวลำโพง (Missing Link) ระยะทาง 25.9 กม. ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างปรับแบบสถานีราชวิถีใหม่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารเดินเชื่อมเข้าสู่อาคารโรงพยาบาลรามาธิบดี นอกจากนี้ยังต้องประเมินราคาค่าก่อสร้างใหม่ ทำให้ Missing Link ต้องปรับกรอบวงเงินเพิ่มประมาณ 2,843 ล้านบาท จากเดิม 44,157 ล้านบาท เป็น 47,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเสนอขออนุมัติจาก ครม.และเปิดประมูลในปี 2566
อย่างไรก็ดี ร.ฟ.ท.ยังอยู่ระหว่างเตรียมเสนอไปยังกระทรวงคมนาคมเพื่อจัดหาเอกชนร่วมลงทุนเดินรถและซ่อมบำรุงรถไฟชานเมืองสายสีแดงทั้งระบบ 6 เส้นทาง แบ่งเป็น ส่วนต่อขยาย 4 เส้นทาง และเส้นทางที่เปิดบริการแล้ว 2 เส้นทาง ได้แก่ ช่วงบางซื่อ-รังสิต และบางซื่อ-ตลิ่งชัน วงเงินประมาณ 3.6 แสนล้านบาท สัมปทาน 50 ปี โดยหากกระทรวงคมนาคมอนุมัติ จะเสนอเรื่องดังกล่าวไปยังสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และ ครม.ตามลำดับ คาดว่าจะเปิดประมูลได้ในปี 2567 ประเมินตลอดอายุสัมปทานจะสร้างรายได้ 5.8 แสนล้านบาท