เช็ก "ราคาก๊าซหุงต้ม" ล่าสุด ถึง 7-48 กก. อ่วมจ่อปรับขึ้นราคาอีก

เช็ก "ราคาก๊าซหุงต้ม" ล่าสุด ถึง 7-48 กก. อ่วมจ่อปรับขึ้นราคาอีก

สำรวจ "ราคาก๊าซหุงต้ม" ในเขตพื้นที่เทศบาลนครนครราชสีมา จ่อปรับราคาขึ้นอีกวันพรุ่งนี้ (1 ก.ย.2565) ชาวบ้านบ่นอุบ วอนรัฐฯ ช่วยแก้ปัญหาของแพง

(31 ส.ค.2565) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจ "ราคาก๊าซหุงต้ม" ในเขตพื้นที่เทศบาลนครนครราชสีมา พบว่า ร้านจำหน่ายก๊าซหุงต้มเตรียมปรับขึ้นราคาหลังจากที่ กระทรวงพลังงาน มีมติปรับราคาก๊าซหุงต้มขึ้นอีกกิโลกรัมละ 1 บาท โดยที่มีการเริ่มมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2565 ที่ผ่านมา

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

- "ราคาน้ำมันวันนี้" ล่าสุด 31 ส.ค.2565 ปั๊มเชลล์ ปรับลดราคาแก๊สโซฮอล์ ดีเซล

- "ราคาทอง"วันนี้เปิดตลาด ปรับตัวลง 50 บาท

 

"ราคาก๊าซหุงต้ม" ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ล่าสุด

  • ถัง 7 กิโลกรัม ราคาเฉลี่ยถังละ 245 - 255 บาท
  • ถัง 11.5 กิโลกรัม ราคาเฉลี่ยถังละ 365 - 380 บาท
  • ถัง 13.5 กิโลกรัม ราคาเฉลี่ยถังละ 415 - 430 บาท
  • ถัง 15 กิโลกรัม ราคาเฉลี่ยถังละ 425 - 440 บาท
  • ถัง 48 กิโลกรัม ราคาเฉลี่ยถังละ 1,313 - 1,330 บาท

ซึ่งจากการจ่อปรับ "ราคาก๊าซหุงต้ม" ในครั้งนี้ทำให้ผู้จำหน่ายก๊าซหุงต้มได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก

จากการสอบถาม นายบัณฑิต อายุ 53 ปี เจ้าของร้านจำหน่ายก๊าซหุงต้ม เปิดเผยว่า หลังจากทราบข่าวการปรับขึ้นราคาของก๊าซหุงต้มในครั้งนี้ ตนก็เตรียมตัวโดยแจ้งกับลูกค้าประจำบางรายถึงการปรับราคาในครั้งนี้ ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่บอกกับตนว่าชินแล้วเพราะทุกวันนี้อะไรก็แพง ตนจึงอยากฝากไปยังรัฐบาลว่าการปรับราคาของก๊าซหุงต้มในครั้งนี้ขอให้เป็นครั้งสุดท้ายเพราะประชาชนเดือดร้อนเหลือเกิน สำหรับการเตรียมปรับราคาก๊าซหุงต้มในครั้งนี้ นอกจากนะส่งผลกระทบกับผู้จำหน่ายแล้วยังส่งผลกระทบไปยังผู้ประกอบการร้านอาหารอีกด้วย

ทางด้าน น.ส.รวีพร อายุ 40 ปี เจ้าของร้านข้าวแกง เปิดเผยว่า ที่ร้านของตนใช้ก๊าซหุงต้มวันละถังโดยใช้ถังละ 15 กิโลกรัม ซึ่งใช้ในการทำข้าวแกงและข้าวต้มหัวปลา ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาก๊าซหุงต้มก็มีการปรับขึ้นราคามาทุกเดือน ตนถือว่ายังโชคดีที่ยังซื้อก๊าซหุงต้มได้ในราคาถูกกว่าคนอื่นเพราะเป็นลูกค้าประจำของทางร้าน

อยากฝากไปยังรัฐบาลอยากให้ช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ เพราะนอกจากก๊าซหุงต้มที่เป็นสินค้าที่ประชาชนต้องใช้ประจำแล้ว ยังมีมีสินค้าอุปโภคบริโภคแทบทุกชนิดที่มีราคาแพง ซึ่งสวนทางกับรายได้ของประชาชนที่ยังคงเท่าเดิม