กทม.ลุ้นระทึกศาลปกครองนัดพิพากษา 'BTS' ทวงหนี้จ้างเดินรถ 1.2 หมื่นล้าน
ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำพิพากษาพรุ่งนี้ (7 ก.ย.) ปม กทม.ค้างจ่ายหนี้ค่าจ้างเดินรถ BTS รวมกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรุ่งนี้ (7 ก.ย.) เวลา 11.00 น. ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำพิพากษาในคดีที่บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้า BTS ยื่นฟ้องกรุงเทพมหานคร และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด กรณีผิดสัญญา
การให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง โครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร (โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว) เพื่อขอให้ชำระค่าตอบแทนตามสัญญาดังกล่าว ณ ห้องพิจารณาคดี 10 ชั้น 3 อาคารศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ
โดยข้อพิพาทที่เกิดขึ้นนั้น สืบเนื่องจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่กรุงเทพมหานครให้สัมปทานกับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ได้มีการพัฒนาส่วนต่อขยายถึงปัจจุบันคือ ช่วงอ่อนนุช-เคหะสมุทรปราการ ช่วงหมอชิต-คูคต และช่วงสะพานตากสิน-บางหว้า ซึ่งได้มีการจ้าง BTS เดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย รวมถึงการวางระบบรถไฟฟ้าและการซ่อมบำรุง
ขณะที่สัญญาจ้างดังกล่าวส่งผลให้กรุงเทพมหานครและกรุงเทพธนาคมค้างชำระกับ BTS รวม 40,000 ล้านบาท และเป็นวงเงินที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะที่ผ่านมากรุงเทพธนาคมไม่ได้มีการชำระหนี้ในส่วนต่อขยายที่ 1 ช่วงสะพานตากสิน-วงเวียนใหญ่-บางหว้าและช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง มาตั้งแต่เดือน พ.ค.2562 และส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต มาตั้งแต่เปิดให้บริการ
ปัญหาดังกล่าวจึงนำมาสู่การฟ้องร้องต่อศาลปกครองในกรณีที่หน่วยงานรัฐผิดสัญญาทางปกครองตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง และศาลปกครองกลางได้นัดแถลงปิดคดีไปแล้วเมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา ก่อนจะมีการนัดอ่านคำพิพากษาในวันพรุ่งนี้ (7 ก.ย.)
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ศาลปกครองกลางได้มีนัดแถลงปิดคดีหลังจากที่ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง เมื่อวันที่ 15 ก.ค.2564 โดยเป็นการฟ้องกรุงเทพมหานคร (กทม.) และบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด (KT) กรณีติดค้างหนี้ค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-เคหะสมุทรปราการ เป็นจำนวนมูลหนี้รวม 12,000 ล้านบาท ซึ่งศาลปกครองกลางได้รับคำฟ้องเมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ภายหลังการแถลงปิดคดีแล้ว ศาลปกครองกลางได้มีนัดอ่านคำพิพากษาในวันที่ 7 ก.ย.2565 โดยเบื้องต้นบริษัทฯ ยังไม่ได้รับการติดต่อเจรจาจากทาง กทม. หรือกรุงเทพธนาคม ส่วนมูลหนี้ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนั้น มีรวมแล้วกว่า 4 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น หนี้ค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-เคหะสมุทรปราการ ที่เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 20,000 ล้านบาท และ 2.ค่าติดตั้งงานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล (E&M) จำนวน 20,000 ล้านบาท
“มูลหนี้ที่ศาลจะพิจารณา จะเป็นมูลหนี้ ณ วันที่เรายื่นฟ้องไป ก็จะเป็นจำนวน 12,000 ล้านบาท ตอนนี้คงต้องรอฟังคำตัดสินตามกระบวนการศาลว่าจะเป็นเช่นไร ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าหากศาลตัดสินแล้ว มูลหนี้ที่เหลือก็คงจะมีทิศทางดำเนินการในลักษณะเดียวกัน”