กอนช.เตือนเฝ้าระวังน้ำท่วมทั่วประเทศ
จากฝนคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน)คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำจังหวัด นครสวรรค์ (C.2) อยู่ในเกณฑ์ 2,000 - 2,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
1. ประกาศกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ
ประกาศกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 35/2565 ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2565 กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ แจ้งเฝ้าระวังระดับน้ำบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา จากการคาดการณ์จะมีฝนตกหนัก ในช่วงวันที่ 3 – 8 กันยายน 2565 บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ได้ประเมินสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา จากฝนคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน)คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำจังหวัด
นครสวรรค์ (C.2) อยู่ในเกณฑ์ 2,000 - 2,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์ 1,800 – 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีโดยจะส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อน
เพิ่มสูงขึ้นจากเดิมประมาณ 0.40 – 0.50 เมตร ในช่วงวันที่ 1 - 10 กันยายน 2565 บริเวณชุมชนพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ คลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง คลองบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี และกรุงเทพมหานคร
2. ผลการดำเนินงานตามมาตรการรองรับฤดูฝน ปี 2565
2.1 การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ได้ดำเนินการแจ้งเตือนนิคมอุตสาหกรรมทั้ง 67 แห่งทั่วประเทศ
ให้ติดตามและเฝ้าระวังการเกิดน้ำท่วมฉับพลัน กรณีที่อาจมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีความเสี่ยง เช่น
นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน, นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) และนิคมอุตสาหกรรมนครหลวง ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ราบลุ่มต่ำและติดแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมฉับพลันได้ รวมถึงนิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการ ที่พื้นที่อยู่ใกล้ทะเลและอยู่ใกล้กับชุมชน ที่อาจเกิดน้ำทะเลหนุนได้ในบางช่วง
2.2 กรมทรัพยากรน้ำ ตรวจสอบ ซ่อมแซม บำรุงรักษาระบบตรวจวัดปริมาณน้ำเก็บกักในแหล่งน้ำขนาดเล็ก
ในเขตพื้นที่จังหวัดราชบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ เพื่อตรวจวัดปริมาณน้ำในแหล่งน้ำใช้ในการประเมินปริมาณน้ำที่มีในปัจจุบัน รวมทั้งใช้เป็นข้อมูลในการกำหนดแนวทางการบริหารจัดการน้ำ เพื่อวางแผนช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาด้านน้ำในพื้นที่ พร้อมทั้งเข้าเยี่ยมพนักงานเก็บข้อมูลทางอุทกวิทยาเพื่อซักซ้อมและให้ความรู้ในการอ่านค่าระดับน้ำจากไม้วัดระดับน้ำ
3. สภาพอากาศ
การคาดการณ์สภาพอากาศในช่วงวันที่ 7 - 9 ก.ย. 65 บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศลาว ภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ส่งผลทำให้ร่องมรสุมกำลังแรงเลื่อนลงมาพาดผ่าน
ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้
ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย มีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
4. สถานการณ์น้ำท่วม
ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและภาคกลางตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง ในวันที่ 4 - 6 ก.ย. 65 มีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 17 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย ลำปาง พะเยา เพชรบูรณ์ ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สุพรรณบุรี อุดรธานี ขอนแก่น ชัยภูมิ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ยโสธร ศรีษะเกษ อุบลราชธานี และระยอง