เลบานอนปิดแบงก์ทั่วประเทศไม่มีกำหนด หลังลูกค้าเดือดบุกปล้นเงินฝาก
ธนาคารทุกแห่งในเลบานอนปิดทำการอย่างไม่มีกำหนดเนื่องจากไม่ปลอดภัย หลังจากลูกค้าที่โกรธแค้นบุกปล้นธนาคารหลายแห่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพื่อเอาเงินฝากของตัวเองคืน หลังจากถูกอายัด
สมาคมธนาคารเลบานอน ประกาศวันพฤหัสบดี(22ก.ย.) ว่า ธนาคารทุกแห่งจะยังปิดทำการต่อไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากไม่ได้รับความมั่นใจจากทางการในการรักษาความปลอดภัย ยังคงมีความเสี่ยงอย่างต่อเนื่องสำหรับพนักงานและลูกค้า และบรรยากาศของการปลุกระดมยังคงมีอยู่
ธนาคารหลายแห่งปิดประตูไม่ต้อนรับลูกค้า หลังจากเกิดเหตุการณ์ประชาชนที่โกรธแค้นบุกปล้นธนาคาร 7 แห่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในขณะที่วิกฤติการเงินที่ยืดเยื้อนาน 3 ปีเลวร้ายลงอีก และชีวิตชาวเลบานอนยากลำบากยิ่งขึ้น
ภาคธนาคาร "อายัดเงินฝาก" มานานกว่า 2 ปี และจำกัดจำนวนเงินที่สามารถถอนได้แต่ละครั้ง ในขณะที่ประชากรราว 3 ใน 4 อยู่ในภาวะยากจน ชาวเลบานอนส่วนใหญ่กล่าวโทษภาคธนาคารและธนาคารกลางสำหรับวิกฤติที่เกิดขึ้น
ในเดือน ส.ค. ชายคนหนึ่งกลายเป็นที่สนใจอย่างกว้างขวาง หลังจากเขาปล้นธนาคารเฟเดอรัล แบงค์ และชิงเงินฝากของตัวเอง 35,000 ดอลลาร์ไปได้ โดยไม่ได้ถูกตั้งข้อหาทางอาญาใด ๆ หลังจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ลอกเลียนแบบตามมา
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีลูกค้าที่โกรธแค้นบุกธนาคารต่าง ๆ รวม 7 แห่ง โดยใช้ปืนพก ปืนปลอม หรือ ปืนลูกปราย ขู่บังคับให้พนักงานคืน "เงินฝาก" ให้พวกเขา บางคนก็ทำสำเร็จ เอาเงินฝากไปให้ครอบครัวได้แต่ถูกจับกุม หรือ ซ่อนตัวอยู่ ส่วนบางคนไม่ได้เงินและถูกจับกุม
เมื่อวันที่ 16 ก.ย. เพียงวันเดียวมีการปล้นธนาคารถึง 5 แห่ง หลังจากนั้นธนาคารประกาศปิด 3 วันระหว่าง 19-21 ก.ย. และยังเกิดเหตุหญิงคนหนึ่งใช้ปืนเด็กเล่นปล้นธนาคารเมื่อวันพุธเพื่อเอาเงินฝากไปจ่ายค่ารักษาของสมาชิกในครอบครัว ล่าสุดธนาคารทุกแห่งจึงปิดทำการอย่างไม่มีกำหนด
นอกจาก "วิกฤติการเงิน" แล้ว พรรคการเมืองเลบานอนยังมีความแตกแยกจนไม่สามารถตกลงจัดตั้งรัฐบาลได้ ทั้งที่การเลือกตั้งผ่านพ้นมานาน 4 เดือนแล้ว และทางการกำลังพยายามเจรจาขอเงินกู้ 3,000 ล้านดอลลาร์จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ แต่มีความคืบหน้าน้อยมาก และไอเอ็มเอฟ ประเมินว่า เลบานอนยังมีการปฏิรูปไม่ครบถ้วนตามเงื่อนไข