กทท.จ่อส่งมอบแหลมฉบังเฟส 3 ดัน ‘จีพีซี’ เริ่มงาน พ.ค.66
กทท.กางแผนส่งมอบท่าเรือ F แหลมฉบังเฟส 3 ให้ GPC เริ่มพัฒนาเฟสแรก 1,000 เมตร พ.ค.2566 รับงานถมทะเลล่าช้ากว่าแผน คืบหน้า 5% สั่งผู้รับเหมาเสริมเรือเพิ่มเร่งก่อสร้าง ยันเปิดให้บริการภายในปี 2568 รองรับตู้สินค้าปีละ 13 ล้าน ที.อี.ยู.
นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 โดยระบุว่า งานก่อสร้างถมทะเล กทท.ได้ว่าจ้างกิจการร่วมค้าซีเอ็นเอ็นซีเป็นผู้ดำเนินโครงการฯ ในวงเงิน 21,230 ล้านบาท ปัจจุบันความคืบหน้าภาพรวม 5% ล่าช้าจากแผนที่เดิมจะต้องแล้วเสร็จ 7-8% หรือล่าช้าประมาณ 3-4 เดือน จากผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้การส่งมอบวัสดุและอุปกรณ์เครื่องจักรล่าช้า
อย่างไรก็ดี ทางผู้รับจ้างงานก่อสร้างถมทะเล ปัจจุบันได้ส่งมอบงานก่อสร้างงานทางทะเลในส่วนของงานพื้นที่ถมทะเล 1 (Key Date 1) เรียบร้อยแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2565 ที่ผ่านมา จากเดิมต้องส่งมอบภายใน พ.ค. 2565 โดยหลังจากนี้ กทท.จะเร่งรัดผู้รับจ้างดำเนินการ ดำเนินงานพื้นที่ถมทะเล 2 (Key Date 2) ได้แก่ การขนย้ายดินเลนการถมทราย ฯลฯ คาดว่า จะแล้วเสร็จภายใน ธ.ค. 2565
“เพื่อให้งานถมทะเลดำเนินการได้เร็วขึ้น และกลับเข้าสู่แผนงานปกติโดยเร็ว กทท.ได้เร่งรัดผู้รับจ้างงงาน โดยล่าสุดทางกิจการร่วมค้าซีเอ็นเอ็นซีมีแผนที่จะเพิ่มเรือ ขุดลอกอีก 2 ลำ ซึ่งมีประสิทธิภาพในการขุดมากกว่าเดิม และยังเร่งรัดก่อสร้างหลักผูกจอดเรือชั่วคราวเพื่อนำหิน ไปก่อสร้างคันหินล้อมพื้นที่ท่าเทียบเรือ EO ท่าเทียบเรือ F ท่าเรือบริการ และท่าเรือชายฝั่งของโครงการด้วย”
สำหรับพื้นที่ถมทะเล 3 (Key Date 3) คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในกลางปี 2556 ส่งผลให้ กทท.ประเมินว่าจะสามารถทยอยส่งมอบพื้นที่ท่าเทียบเรือ F ให้บริษัท จีพีซี อินเตอร์เนชั่นแนล เทอร์มินอล จำกัด (GPC) เอกชนคู่สัญญาร่วมลงทุนโครงการท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 ในเดือน พ.ค.2566 โดยจะทยอยส่งมอบพื้นที่ขนาด 1,000 เมตร หลังจากนั้นจะส่งมอบพื้นที่ครบ 2,000 เมตร ประมาณ พ.ค. 2568
นายเกรียงไกร กล่าวด้วยว่า ส่วนที่ 2 งานจ้างเหมาก่อสร้างโครงการฯ ได้แก่ งานก่อสร้างอาคาร ท่าเทียบเรือระบบถนน และระบบสาธารณูปโภค วงเงินประมาณ 7,000 ล้านบาทนั้น ปัจจุบันได้ประกาศเอกสารประกวดราคา (ทีโออาร์) แล้ว โดย กทท.มีเป้าหมายจะเปิดประกวดราคาภายในเดือน ต.ค.นี้ และคาดว่าจะได้ตัวเอกชนผู้รับจ้างภายในปีนี้
ส่วนงานที่ 3 งานก่อสร้างระบบรถไฟ วงเงินราว 900 ล้านบาท และส่วนงานที่ 4 งานติดตั้งเครื่องจักและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ วงเงินราว 2.2 พันล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมการประกาศประกวดราคา โดยคาดว่าส่วนงานที่ 3 จะดำเนินการแล้วเสร็จภายใน พ.ย. 2565 และส่วนงานที่ 4 จะแล้วเสร็จภายใน ธ.ค.นี้
ทั้งนี้ โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ส่วนของท่าเรือ F เป็นหนึ่งในโครงการสำคัญตามแผนพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) มูลค่าการลงทุน รวม 1.1 แสนล้านบาท แบ่งเป็น กทท. ลงทุน 5 หมื่นล้านบาทและเอกชนลงทุน 6 หมื่นล้านบาท โดยมีระยะเวลาสัมปทาน 35 ปี
โดยภายหลังเปิดให้บริการท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 จะเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับตู้สินค้า ประกอบด้วย ท่าเทียบเรือตู้สินค้า จำนวน 4 ท่า สามารถรองรับตู้สินค้าได้ไม่ต่ำกว่า 7 ล้าน ที.อี.ยู. ต่อปี, ท่าเทียบเรือรถยนต์(RO/RO) 1 ท่า รองรับรถยนต์ได้ 1 ล้านคันต่อปี, ท่าเทียบเรือบริการ และท่าเทียบเรือชายฝั่ง อย่างละ 1 ท่า (ท่าเทียบเรือ E ในอนาคต) ซึ่งจะทำให้ท่าเรือแหลมฉบังมีขีดสามารถรองรับความจุตู้สินค้าเพิ่มขึ้นเป็น 18 ล้าน ที.อี.ยู. ต่อปีในปี 2578