รถเมล์ ‘อีวี’ ประชาชนได้อะไร สิ้นปีนี้บริการครบ 1,250 คัน
กระทรวงคมนาคมลุยเปลี่ยนรถโดยสารประจำทางเป็นระบบไฟฟ้า ให้บริการครบ 1,250 คัน ใน 122 เส้นทางภายในปีนี้ พร้อมกางแผนเพิ่มจำนวนอย่างต่อเนื่องครบ 3,200 คัน หนุนเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 184,000 ตันคาร์บอนได้ออกไซด์ต่อปี
กระทรวงคมนาคมเร่งผลักดันนโยบายเพิ่มประสิทธิภาพรถโดยสารประจำทางให้ประชาชน ผ่านการจัดหารถโดยสารพลังงานสะอาด ประเภทพลังงานไฟฟ้า (EV) มีเป้าหมายให้บริการภายในปีนี้ทั้งสิ้น 1,250 คัน ใน 122 เส้นทางที่ปฏิรูปใหม่ และยังมีแผนขยายการให้บริการ กับเส้นทางการเดินรถโดยสารในกรุงเทพฯ ทั้งหมด 237 เส้นทาง โดยปัจจุบันได้นำร่องให้บริการแล้ว อาทิ สาย 8 แฮปปี้แลนด์ – ท่าเรือสะพานพุทธ, สาย 17 พระประแดง – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และสาย 82 ท่าน้ำพระประแดง – บางลำพู
สำหรับการให้บริการรถโดยสารประจำทางไฟฟ้า ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเดินทางที่เพิ่มประสิทธิภาพบริการประชาชน โดยประโยชน์ว่าด้วยเรื่องสมรรถนะของรถโดยสาร NEX-MINEBUS รุ่น CITY BUS และรุ่น XML6115JEV มีขนาด 31 ที่นั่ง ใช้แบตเตอรี่ขนาด 24 V 2x100Ah มาพร้อมระบบเครื่องเสียงและกล้อง CCTV พร้อมด้วยระบบความปลอดภัย ทั้งการป้องกันล้อล็อก, ถังดับเพลิง, เข็มขัดนิรภัย, ค้อนนิรภัย, ทางออกฉุกเฉินบนหลังคา, ระบบดับเพลิงอัตโนมัติ และระบบดับเพลิงอัตโนมัติในห้องอุปกรณ์
อีกทั้งยังขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 260 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 3,000 นิวตันเมตร มาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP67 ความจุพลังงานแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูง 151.07 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง หรือ 302.14 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง พอร์ตชาร์ตแบบ 1 พอร์ต ตามมาตรฐานยุโรป
นอกจากนี้ ยังก่อให้เกิดประโยชน์จากความร่วมมือระหว่างรัฐและเอกชนอย่าง บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด เอกชนผู้รับจ้างเดินรถ เนื่องจากจะมีการจัดทำโปรโมชั่นใช้บริการรถโดยสารใหม่นี้ ประกอบด้วย
- จัดเก็บค่าโดยสารที่ราคา 10 บาท ตลอดสายจนถึงสิ้นปี 2565 สำหรับประชาชนผู้เดินทางซึ่งเป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- จัดทำตั๋วประเภทพิเศษ โดยหากประชาชนเดินทางครบ 40 บาท ในหนึ่งวันแล้ว จะไม่มีการเก็บค่าโดยสารเพิ่ม
ทั้งนี้ ประโยชน์ที่อดกล่าวถึงไม่ได้สำหรับรถโดยสารประจำทางไฟฟ้า คือผลจากการพัฒนาให้ใช้พลังงานแบตเตอรี่สู่มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน ทำให้ไม่มีการปล่อยไอเสียหรือก๊าซเรือนกระจก ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ มีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงถูกกว่าน้ำมัน เมื่อไม่มีเครื่องยนต์จึงบำรุงรักษาง่าย และการทำงานของระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเงียบกว่าเครื่องยนต์ดีเซล ลดมลภาวะทางเสียง
โดยท้ายที่การปรับเปลี่ยนรถโดยสารประจำทางไฟฟ้านี้ เป็นส่วนหนึ่งในนโยบายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตามเป้าหมายหากกระทรวงคมนาคมเปลี่ยนเป็นรถโดยสารประจำทางไฟฟ้าครบ 3,200 คัน จะทำให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 184,000 ตันคาร์บอนได้ออกไซด์ต่อปี