กรอ.กทม.นัดแรกคึกคัก หอการค้าไทยชง 3 ประเด็น ร่วมสร้างเมืองน่าอยู่

กรอ.กทม.นัดแรกคึกคัก หอการค้าไทยชง 3 ประเด็น ร่วมสร้างเมืองน่าอยู่

หอการค้าฯร่วมประชุมกรอ.กทม. ชง 3 ประเด็น ทั้งการปรับรูปแบบอนุญาตก่อสร้างให้เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ และการทบทวนราคากลางในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ และการยกระดับ Street Food ดัน กทม.เป็น Smart City

นายสนั่น  อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนกรุงเทพมหานคร (กรอ.กทม.) นัดแรก ว่า  การประชุมวันนี้มี นายชัชชาติ  สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร  เป็นประธานในการประชุม ซึ่งกรุงเทพมหานครนั้นเป็นเมืองเศรษฐกิจและเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ หอการค้าฯ จึงสนับสนุนและต้องการผลักดันให้เป็น Smart City โดยเร็ว พร้อมกับสร้างเสริมให้เป็นเมืองที่มีความปลอดภัย โดยจะต้องนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาปรับใช้ เพื่อการพัฒนาดังกล่าว

หอการค้าฯได้เสนอประเด็นในการพัฒนากรุงเทพมหานครให้เป็นเมืองน่าอยู่ ซึ่งสอดรับกับนโยบายของกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย  1.การปรับรูปแบบการขออนุญาตก่อสร้างให้เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์   ซึ่งปัจจุบันผู้ประกอบการและประชาชน สูญเสียเวลาและค่าใช้จ่ายไปกับขั้นตอนการติดต่อราชการ รวมทั้ง ต้องจัดเตรียมเอกสารประกอบการยื่นขออนุญาต ในขณะที่หน่วยงานรัฐเองก็มีเอกสารต่าง ๆ อยู่แล้ว เพียงแต่ยังขาดการเชื่อมโยงระหว่างกัน

โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างที่ต้องทำการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และกรุงเทพมหานคร มีอำนาจอนุมัตินั้น กรุงเทพมหานครร่วมกับสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ควรเพิ่มจำนวนที่ปรึกษา สำหรับจัดทำรายงานประเมินให้เพียงพอความต้องการ โดยเฉพาะที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในบางสาขาที่ยังมีจำนวนน้อย ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาการรอคิว และจะส่งผลดีต่อค่าใช้จ่ายที่อาจจะลดลงในการจัดทำเอกสาร รวมทั้งการอนุมัติโครงการต่าง ๆ จะทำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

กรอ.กทม.นัดแรกคึกคัก หอการค้าไทยชง 3 ประเด็น ร่วมสร้างเมืองน่าอยู่ ​​​​​​​

ส่วนโครงการที่ไม่ต้องประเมิน EIA ก็ขอให้นำระบบการขออนุญาตแบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ โดยสามารถแนบเอกสาร และไม่ต้องนำเอกสารฉบับจริงไปแสดง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับภาคธุรกิจและประชาชน ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครรับข้อเสนอของหอการค้าฯ ไปดำเนินการ พร้อมชี้แจงว่ากำลังดำเนินการเรื่องใบอนุญาตก่อสร้าง ที่จัดทำเป็นรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยจะแล้วเสร็จประมาณเดือนธันวาคมนี้ ส่วนเรื่องจำนวนที่ปรึกษา ทาง กทม.รับไปหารือกับสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่อไป

นายสนั่น กล่าวว่า  2. การทบทวนราคากลางในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ เป็นการเสนอให้มีการทบทวนราคากลางในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ขอให้มีการหารือร่วมกับกรมบัญชีกลาง เพื่อผลักดันการกำหนดราคากลางที่สะท้อนต้นทุนความเป็นจริงของภาคธุรกิจ และความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมใหม่ ๆ เนื่องจากที่ผ่านมา ราคากลางในการจัดซื้อจัดจ้างไม่เท่ากับราคาตลาด ทำให้กระทบต่อหลายโครงการ ทำให้ผู้รับเหมาบางรายทิ้งงาน โดยทาง กทม.ยินดีรับเป็นตัวกลางหารือระหว่างภาคเอกชนกับกรมบัญชีกลางในเรื่องนี้

3. การยกระดับ Street Food โดยการสร้าง Ecosystem ที่เหมาะกับการพัฒนาและบ่มเพาะผู้ประกอบการ SMEsซึ่งข้อเสนอของหอการค้าฯ ในเรื่องการยกระดับ Street Food นั้น เป็นประเด็นที่สอดคล้องกับนโยบาย 9 ดี ของกรุงเทพมหานคร ที่ต้องการยกระดับ รวมทั้งสร้างมาตรฐาน Street Food ไปพร้อมกับการจัดระเบียบ แก้ไขปัญหาต่าง ๆ อย่างจริงจัง

 

หอการค้าฯ และผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (YEC) พร้อมสนับสนุนและร่วมมือในการนำ Digital Transformation มาใช้ พร้อมกับยกระดับมาตรฐานและความสะอาดให้ Street Food ของ กทม. ซึ่งสามารถดำเนินการได้ทันที โดยจะดึงอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของ 50 ย่านทั่วกรุงเทพฯ มาเป็นจุดขาย และสร้างให้เกิดแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจต่อไป ทั้งนี้ กทม. ได้นำเสนอแผนงานที่ได้ดำเนินการไปแล้วในหลาย ๆ พื้นที่ เช่น เรื่องเขตเศรษฐกิจเฉพาะ เตรียมจัดการสภาพแวดล้อมในพื้นที่นำร่องเป้าหมาย คือ เยาวราช โบ๊เบ๊ คลองถม  และยังเตรียมจัดระเบียบหาบเร่แผงลอย การทำฐานข้อมูลทะเบียนผู้ค้า ซึ่งการจัดระเบียบต่าง ๆ จะเป็นความร่วมมือระหว่าง กทม.กับภาคเอกชนหลาย ๆ หน่วยงาน ทั้งนี้ จะมีการจัดตั้งเป็นคณะทำงานย่อยทั้ง 3 ประเด็นที่หอการค้าฯ นำเสนอ เพื่อดำเนินการขับเคลื่อนร่วมกันต่อไป

ส่วนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ก็มีประเด็นเสนอ 3 เรื่อง คือ 1.โครงการบริหารจัดการขยะ และการสร้างมูลค่าเพิ่มจากขยะ (Upcycling) 2. โครงการฟื้นฟูและปรับปรุงคลองต้นแบบ อาทิ คลองหัวลำโพง 3) โครงการจัดการความปลอดภัยร้านอาหาร Street Food & Safety Food 

 ขณะที่สมาคมธนาคารไทย ก็มีประเด็นเสนอ 3 เรื่องเช่นกัน คือ 1.การนำเทคโนโลยีทางการเงินเข้ามาช่วยในการพัฒนา กทม.และผลักดันให้เกิด Digital Transformation 2. ส่งเสริมการเข้าถึงสินเชื่อประเภทต่างๆ ของประชาชนใน กทม.เพื่อแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ และ 3. สนับสนุนการพัฒนา กทม.เป็นเมืองนำร่องในการเชื่อมโยงระบบชำระเงินของนักท่องเที่ยวในภูมิภาค  โดยข้อเสนอทั้งหมดของ 2 สถาบัน กทม.จะจัดตั้งคณะทำงานฯ เพื่อหารือรายละเอียดความร่วมมือต่อไป

นอกจากนี้จะจัดตั้งคณะทำงานร่วมกับภาคเอกชน เพื่อหารือด้านโอกาสและแนวทางขับเคลื่อน แนวคิดของนายชัชชาติ ที่จะผลักดันให้กทม.เป็นศูนย์กลางของภูมิภาค (Regional Hub) ในอุตสาหกรรมเป้าหมายสำคัญ ที่ กทม.มีจุดแข็ง เช่น ธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจบริการเพื่อสุขภาพ อัญมณี และการจัดประชุมนานาชาติ เป็นต้น

“ การหารือเพื่อติดตามในครั้งนี้ เห็นได้ชัดว่า จากการที่ ท่านผู้ว่าฯ มาพบภาคเอกชนหลังได้รับตำแหน่งนั้น ข้อเสนอแต่ละเรื่องที่เสนอไปครั้งที่แล้ว ได้มีความคืบหน้าอย่างชัดเจน และได้มีการกระจายงานไปยังทีมงานเพื่อให้การขับเคลื่อนเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเชื่อว่าการทำงานแบบนี้จะคล่องตัวและสามารถทำให้ประเด็นต่าง ๆ ในพื้นที่ กทม.สามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ”