‘เคธี วูด’ชี้การขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงเสี่ยงทำศก.ล่มสลาย
นางเคธี วูด ซีอีโอของบริษัท Ark Investment Management ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยระบุว่า การที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงหลายครั้งเพื่อควบคุมเงินเฟ้อนั้น อาจจะเป็นการดำเนินการที่ผิดพลาด
นางวูดกล่าวว่า แทนที่เฟดจะมุ่งความสนใจไปที่ข้อมูลการจ้างงานและดัชนีชี้วัดเงินเฟ้อในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เฟดควรจะศึกษาบทเรียนจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่บ่งชี้ว่า ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่ร้ายแรงที่สุดก็คือภาวะเงินฝืด ไม่ใช่เงินเฟ้อ
“ดูเหมือนว่าเฟดจะจดจ่ออยู่แค่ตัวเลขการจ้างงานและเงินเฟ้อ แต่เรากลับมองว่าปัจจัยทั้ง 2 ข้อนั้นเป็นดัชนีชี้วัดที่ส่งสัญญาณขัดแย้งกันและทำให้เฟดถูกตั้งข้อสงสัยว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นมติที่เอกฉันท์จริงหรือไม่” นางวูดระบุในจดหมายเปิดผนึกที่ส่งถึงเฟด และมีการโพสต์บนเว็บไซต์ของบริษัท Ark Investment
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐได้บ่งชี้ถึงภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในประเทศ โดยดัชนี CPI ทั่วไปเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้น 0.1% เมื่อเทียบรายเดือน และพุ่งขึ้น 8.3% เมื่อเทียบรายปี ขณะที่ดัชนี PCE ทั่วไปในเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือน และพุ่งขึ้น 6.2% เมื่อเทียบรายปี
ส่วนตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในเดือนก.ย.ชะลอการขยายตัวแต่ยังคงแข็งแกร่ง โดยเพิ่มขึ้น 263,000 ตำแหน่ง และอัตราการว่างงานเดือนก.ย. ลดลงสู่ระดับ 3.5%
อย่างไรก็ดี นางวูดกล่าวว่า การปรับตัวลงของราคาสินค้าต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงทองแดงและที่อยู่อาศัย กำลังสะท้อนให้เห็นภาพที่แตกต่างออกไป
ทั้งนี้ คณะกรรมการเฟดอนุมัติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุม 3 ครั้งติดต่อกัน และมีการคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งที่ 4 ในการประชุมวันที่ 1-2 พ.ย.นี้
“เป็นเอกฉันท์? จริงหรือ? การปรับขึ้นดอกเบี้ยมากถึง 13 เท่าในช่วง 6 เดือนที่แล้ว และมีแนวโน้มจะปรับขึ้นอีกเป็น 16 เท่าในการประชุมวันที่ 2 พ.ย.นี้ ไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐเท่านั้น แต่จะกระทบเศรษฐกิจโลกด้วย อีกทั้งยังความเสี่ยงที่จะทำให้เศรษฐกิจเผชิญกับภาวะเงินฝืด” นางวูดระบุในจดหมาย