ส่องไทม์ไลน์เฟดขึ้นดอกเบี้ยถึงสิ้นปี 65 คาดทำสถิติขึ้น 0.75% ติดต่อ 5 ครั้ง
นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนพ.ย.และธ.ค. หลังการเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่สูงเกินคาด
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 94.70% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมวันที่ 1-2 พ.ย. และให้น้ำหนัก 66.70% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค.
หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ทั้งในเดือนพ.ย.และธ.ค. ก็จะส่งผลให้เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ติดต่อกัน 5 ครั้ง หลังจากปรับขึ้น 0.75% ทั้งในเดือนมิ.ย.,ก.ค.และก.ย.
รายละเอียดการดำเนินการด้านอัตราดอกเบี้ยของเฟดนับตั้งแต่ต้นปี 2565 รวมทั้งคาดการณ์ไทม์ไลน์ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมอีก 2 ครั้งที่เหลือในปีนี้ เป็นดังนี้:-
วันที่ 25-26 ม.ค. คงดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25%
วันที่ 15-16 มี.ค. ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ 0.25-0.50%
วันที่ 3-4 พ.ค. ขึ้นดอกเบี้ย 0.50% สู่ 0.75-1.00%
วันที่ 14-15 มิ.ย. ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% สู่ 1.50-1.75%
วันที่ 26-27 ก.ค. ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% สู่ 2.25-2.50%
วันที่ 20-21 ก.ย. ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% สู่ 3.00-3.25%
วันที่ 1-2 พ.ย. (คาดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% สู่ 3.75-4.00%)
วันที่ 13-14 ธ.ค. (คาดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% สู่ 4.50-4.75%)
กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค เพิ่มขึ้น 8.2% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.1%
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3%
ขณะเดียวกัน ดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 6.6% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.5%
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนก.ย. เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2