ดาวโจนส์พุ่ง 748 จุด คลายกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันศุกร์(21ต.ค.)พุ่งขึ้น 748 จุด โดยนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่เฟดเริ่มแสดงความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบจากการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 748.97 จุด หรือ 2.47% ปิดที่ 31,082.56 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 2.37% ปิดที่ 3,752.75 จุดและดัชนีแนสแด็กบวก 2.31% ปิดที่ 10,859.72 จุด
การซื้อขายในตลาดได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนลดคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนธ.ค. หลังมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่เฟดเริ่มแสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 48.4% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค. ลดลงจากเดิมที่ให้น้ำหนัก 75%
นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 95% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 1-2 พ.ย.
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า เจ้าหน้าที่เฟดบางรายแสดงความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในขณะนี้ รวมทั้งวิตกเกี่ยวกับความเสี่ยงในการคุมเข้มนโยบายการเงินมากเกินไป
รายงานดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากที่นายแพทริก ฮาร์เกอร์ ประธานเฟด สาขาฟิลาเดลเฟีย กล่าววานนี้สนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 3 ของสหรัฐในสัปดาห์หน้า
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.9% ในไตรมาส 3
เฟดสาขาแอตแลนตาจะรายงานตัวเลขคาดการณ์ GDPNow ครั้งใหม่ในวันที่ 26 ต.ค. ก่อนที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจีดีพีประจำไตรมาส 3 ในวันที่ 27 ต.ค.
ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่าเศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 1.6% ในไตรมาส 1 และ 0.6% ในไตรมาส 2 ซึ่งการที่เศรษฐกิจหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน ทำให้สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค