เตือนภัย แบงก์พันปลอมระบาด ตร.แนะวิธีสังเกตธนบัตร 1,000 ของจริง-ของปลอม
เตือนภัย แบงก์พันปลอมระบาดหนัก โฆษก ตร. ชี้โทษทั้งจำทั้งปรับ พร้อมแนะวิธีสังเกตธนบัตรใบละ 1,000 บาท รู้เลยแบบไหนของจริง-ของปลอม
จากกรณีโลกโซเชียลได้มีการโพสต์ภาพและข้อความเตือนให้ระวังแบงก์ปลอมระบาด ใน 2 พื้นที่ อ.เมืองอุดรธานี หลังมีลูกค้านำแบงก์พันปลอมมาซื้อหมูกระทะที่ร้าน และอีกร้านคือร้านขายของชำในพื้นที่ ต.เชียงหวาง อ.เพ็ญ มีลูกค้านำแบงก์พันปลอมมาซื้อของเช่นกัน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แนะนำวิธีสังเกตธนบัตรใบละ 1,000 บาท ว่าเป็นของจริงหรือของปลอม โดย พล.ต.ต.อาชยน ระบุว่า สำหรับวิธีสังเกตในเบื้องต้นของธนบัตรใบละ 1,000 บาท ให้ดูที่ "แถบสีในเนื้อกระดาษ" ที่เป็นพลาสติกสีทองที่ฝังไว้ในเนื้อกระดาษตามแนวตั้งของธนบัตร ซึ่งเรียกว่า "แถบสีทอง"
โดยในมุมปกติจะมองเห็นเป็นเส้นประ แต่เมื่อส่องกับแสงจะเห็นเป็นเส้นตรงและมีข้อความ "1000 บาท 1000 BAHT" เมื่อพลิกเปลี่ยนมุมมองจะเปลี่ยนจากสีทองเป็นสีเขียว ลวดลายในแถบจะเคลื่อนไหวไปมาได้ แถบสีอาจมีรอยขูดขีดหลุดลอกชำรุดจากการใช้งานได้ แถบสีที่อยู่ในเนื้อกระดาษธนบัตรแต่ละฉบับสามารถอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ตรงกันได้ โดยอาจเลื่อนไปทางซ้ายหรือขวาตามระยะที่มาตรฐานกำหนดไว้
พล.ต.ต.อาชยน ระบุต่อว่า สำหรับโทษฐานปลอมหรือแปลงธนบัตร ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 240 ระบุไว้ว่า ผู้ใดทำปลอมขึ้นซึ่งเงินตรา ไม่ว่าจะปลอมขึ้นเพื่อให้เป็นเหรียญกษาปณ์ ธนบัตรหรือสิ่งอื่นใด ซึ่งรัฐบาลออกใช้หรือให้อำนาจให้ออกใช้ หรือทำปลอมขึ้นซึ่งพันธบัตรรัฐบาลหรือใบสำคัญสำหรับรับดอกเบี้ยพันธบัตรนั้น ๆ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานปลอมเงินตรา ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 10 ปี ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 40,000 บาท
ในส่วนการใช้เงินปลอมซื้อของมีโทษสูงสุดติดคุก 15 ปี การใช้ธนบัตรปลอมในการซื้อสินค้าและบริการเป็นการกระทำที่มีความผิดตามกฎหมายอาญา
โดยแบ่งความผิดตามเจตนาของผู้ใช้ธนบัตรปลอมออกเป็น 2 ประเด็นหลัก ดังนี้
1. ได้ธนบัตรปลอมมาโดยไม่รู้ว่าเป็นของปลอม แต่ต่อมาเมื่อรู้ว่าเป็นของปลอมแล้วยังขืนนำออกไปซื้อสินค้าและบริการต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 245
2. การมีธนบัตรปลอมไว้เพื่อใช้โดยที่รู้อยู่แล้วว่าเป็นของปลอม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000 บาท ถึง 30,000 บาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 244
"นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยประชาชน เน้นย้ำให้บังคับใช้กฎหมายจัดการกลุ่มมิจฉาชีพปลอมแบงก์อย่างเคร่งครัด สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งปราบปรามและหาทางป้องกันอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้เกิดความเดือดร้อนต่อพี่น้องประชาชนที่เป็นสุจริตชน และเป็นอันตรายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ หากพี่น้องประชาชนพบการกระทำความผิดสามารถแจ้งเบาะแสและสอบถามข้อมูลได้ที่ สายด่วน 191 หรือสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง" พล.ต.ต.อาชยน กล่าว