รัฐบาลสหรัฐเตรียมตรวจสอบ‘อีลอน มัสก์’หวั่นถือหางรัสเซีย

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลังจากมัสก์เสนอแผนยุติความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน โดยบอกให้รัฐบาลเคียฟเป็นฝ่ายรอมชอมเพื่อสันติภาพ

บลูมเบิร์ก รายงานว่าบรรดาเจ้าหน้าที่สหรัฐ รู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นเรื่อยๆเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของมัสก์เมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งขู่หยุดให้บริการเครือข่ายดาวเทียมสตาร์ลิงค์แก่ยูเครน  โดยอ้างว่าใช้เงินทุนไปแล้วกว่า 80 ล้านดอลลาร์ รวมถึงสิ่งที่พวกเขามองว่าเป็น ท่าทีที่เป็นมิตรกับรัสเซียมากขึ้นเรื่อยๆ ของมหาเศรษฐีนักธุรกิจผู้นี้ หลังจากเขาเขียนบนทวิตเตอร์นำเสนอกรอบแผนสันติภาพที่เอื้อประโยชน์แก่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน 

 เท่านั้นยังไม่พอ เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลสหรัฐยังกังวลเกี่ยวกับแผนของมัสก์ ที่จะเข้าซื้อทวิตเตอร์ร่วมกับกลุ่มนักลงทุนต่างชาติด้วย
 

แหล่งข่าววงใน ผู้ไม่ประสงค์เปิดเผยชื่อบอกกับบลูมเบิร์กว่า การพูดคุยหารือยังอยู่ในขั้นต้นๆ โดยเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลสหรัฐและหน่วยข่าวกรองกำลังพิจารณาทบทวนว่ามีตัวช่วยอะไรบ้างที่จะเปิดทางให้รัฐบาลกลางสามารถตรวจสอบธุรกิจของมัสก์ หากว่าจำเป็นต้องทำ ซึ่งหนึ่งในความเป็นไปได้คือ ผ่านกฎหมายที่มอบหมายให้ทางคณะกรรมการการลงทุนของต่างประเทศในสหรัฐตรวจสอบข้อตกลงและปฏิบัติการต่างๆ ของมัสก์ ที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความมั่นคงแห่งชาติ

คณะกรรมการหน่วยงานนี้ ที่มีชื่อย่อ CFIUS และดูแลโดยกระทรวงการคลังของสหรัฐ มีหน้าที่ตรวจสอบการเข้าซื้อกิจการธุรกิจสหรัฐโดยผู้ซื้อต่างชาติแต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าการพิจารณาของ CFIUS ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการประเมินของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิจะชี้ช่องทางทางกฎหมายแก่รัฐบาล เพื่อให้เข้าตรวจสอบธุรกิจของมัสก์หรือไม่

มัสก์ บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก เขียนบนทวิตเตอร์เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน เกี่ยวกับข้อเสนอยุติสงครามของรัสเซียในยูเครน และขู่หยุดสนับสนุนบริการอินเทอร์เน็ตดาวเทียม “สตาร์ลิงค์” ให้ยูเครนใช้ฟรี โดยอ้างว่าไม่อยากแบกรับค่าใช้จ่ายด้านนี้อีกต่อไป  ซึ่งทวีตและความคิดเห็นต่อสาธารณะของมัสก์ สร้างความผิดหวังแก่บรรดาเจ้าหน้าที่ทั้งในสหรัฐ และยุโรป แต่เรียกเสียงชื่นชมจากบรรดาคู่อริของสหรัฐ เช่น รัสเซีย ได้อย่างมาก

สตาร์ลิงค์ เป็นเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการสื่อสารในยูเครนในช่วงที่ทำสงครามกับรัสเซีย และมัสก์ มอบบริการนี้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย แต่บอกว่าบริษัทสเปซเอ็กซ์ต้องสูญเงินประมาณเดือนละ 20 ล้านดอลลาร์

ขณะที่ยูเครน ยืนกรานมาช้านานกว่าจะไม่มีทางยอมสละดินแดนที่ถูกรัสเซียใช้กำลังยึดเอาไป แต่มัสก์ แนะนำให้รัฐบาลเคียฟยอมยกแคว้นไครเมียให้แก่รัสเซียแบบถาวร พร้อมเสนอให้จัดทำประชามติใหม่ภายใต้การดูแลของสหประชาชาติ(ยูเอ็น) เพื่อตัดสินชะตากรรมของดินแดนต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การดูแลของรัสเซีย และยูเครน ต้องยินยอมวางตัวในสถานะเป็นกลาง

ส่วนเรื่องสตาร์ลิงค์ ต่อมา มัสก์ เปลี่ยนใจและกลับคำขู่หยุดให้บริการ โดยบอกว่าจะเดินหน้าแบกรับค่าใช้จ่ายของการให้บริการนี้ต่อไป

นี่น่าจะเข้ากับสำนวนไทยที่ว่า“แกว่งเท้าหาเสี้ยน”...