นักท่องเที่ยวบ่นราคาที่พักแพง หลังท่องเที่ยวบาหลีฟื้น
นักท่องเที่ยวบ่นราคาที่พักแพง หลังท่องเที่ยวบาหลีฟื้น โดยเมื่อตอนที่โรคโควิด-19ยังระบาดหนัก‘มาเรีย’ผู้ลี้ภัยจากฟิลิปปินส์ต้องจ่ายเงินเป็นค่าเช่าโรงแรมบนเกาะบาหลีประเทศอินโดนีเซียเดือนละ2.8 ล้านรูเปี๊ยะห์หรือ180 ดอลลาร์
เมื่อตอนที่โรคโควิด-19ยังระบาดหนัก‘มาเรีย’ผู้ลี้ภัยจากฟิลิปปินส์ต้องจ่ายเงินเป็นค่าเช่าโรงแรมบนเกาะบาหลีประเทศอินโดนีเซียเดือนละ2.8 ล้านรูเปี๊ยะห์หรือ180 ดอลลาร์แต่เมื่ออินโดนีเซียเปิดประเทศ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากกลับมาเที่ยวบาหลีอีกครั้งตั้งแต่ต้นปีมานี้ โรงแรมที่มาเรียเช่าอยู่ใน ‘ชางกู’ หมู่บ้านริมฝั่งทะเลซึ่งมีชื่อเสียงในหมู่นักโต้คลื่นและนักท่องราตรีก็เพิ่มค่าเช่าห้องพักในโรงแรมจากเดิมถึง 5 เท่าตัว
‘มาเรีย’ซึ่งใช้นามแฝงให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอัลจาซีราห์ว่า จู่ ๆ วันหนึ่ง โรงแรมที่เธอพักก็ขึ้นค่าเช่าเป็นวันละ 400,000 รูเปี๊ยะห์ โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า ทำให้เธอไม่มีทางเลือก ต้องย้ายที่พัก และตอนนี้เธอพักอยู่ในห้องเล็ก ๆ ไม่มีเครื่องปรับอากาศ ใกล้กับเดนปาซาร์ หรือเรียกว่าเมืองหลวงแห่งบาหลี
นับตั้งแต่บาหลีเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยว ต้นทุนค่าที่พักอาศัยบนเกาะแห่งนี้ก็ทะยานขึ้นมาก หลายคนเป็นนักท่องเที่ยวที่หาห้องพักเพื่อกักตัวในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 และเมื่อปี 2563 ที่อินโดนีเซียปิดประเทศทำให้นักท่องเที่ยวที่เคยมีมากกว่า 44,000 คน ลดน้อยลงจนแทบไม่เหลือใครเลย โรงแรมหลายแห่งจึงเลือกปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางธุรกิจเปิดห้องให้เช่าระยะยาวเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอด
บรรดาเจ้าของโรงแรมหลายรายลดราคาห้องพัก เพื่อดึงดูดชาวต่างชาติหลายหมื่นคนให้เข้ามาใช้บริการ ขณะที่การแข่งขันด้านราคาดุเดือดมากขึ้นเรื่อยๆ ที่พักตามวิลลาหลายแห่งลดราคาค่าเช่าลง 50%-75% เพื่อรักษาผู้เช่าเอาไว้ ขณะที่โรงแรมนับร้อยแห่งต้องปิดตัวและขายกิจการ เนื่องจากไม่มีทางรู้เลยว่านักท่องเที่ยวจะหวนกลับมาอีกหรือไม่
อย่างไรก็ตาม เมื่อการท่องเที่ยวระหว่างประเทศกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง บาหลีจึงก้าวขึ้นมาเป็นตลาดสำหรับธุรกิจปล่อยเช่าที่พักที่คึกคัก
"จีนา มาร์กส" นักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน เล่าว่า ปกติจ่ายค่าที่พักเดือนละ 10 ล้านรูเปี๊ยะห์ แต่แล้ววันหนึ่งเจ้าของที่พักก็ขึ้นราคาค่าเช่าอีก 40 ล้านรูเปี๊ยะห์ ซึ่งเธอก็เข้าใจแต่การขึ้นราคามากเกินไป ทำให้เธอรู้สึกถูกเอาเปรียบเพราะรายได้ที่ได้จากเธอน่าจะช่วยให้ธุรกิจอยู่รอดมาได้
แต่ก็ไม่ได้มีแค่การขึ้นราคาที่พักเท่านั้น ที่ดินและมูลค่าที่อยู่ศัยบนเกาะชื่อดังแห่งนี้ก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยเหมือนกัน
"มาร์ก ชิง" ประธานบริษัททาโมรา กรุ๊ป บริษัทพัฒนาโครงการวิลลาและอพาร์ตเมนต์ บอกว่า ราคาที่พักในชางกูเพิ่มขึ้น 20%-30% ในปีนี้ ด้วยเหตุผล 2 ประการคือ ชาวต่างชาติสามารถท่องเที่ยวได้อย่างอิสระอีกครั้งและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนอินโดนีเซีย จึงมีการช่วงชิงพื้นที่ตลาดกันอย่างมาก เพื่อให้เป็นกลุ่มแรกที่ได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวรอบนี้
เหตุผลที่สองคือ กฎหมายสร้างงาน หรือ Omnibus Law ที่อินโดนีเซียประกาศใช้เมื่อปี 2563 อนุญาตให้ชาวต่างชาติสามารถซื้ออพาร์ตเมนต์และที่ดิน พร้อมให้สิทธิ์เป็นเจ้าของถาวรหรือมีสิทธิ์ขายต่อได้ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ชิงเริ่มทำโครงการอพาร์ตเมนต์ทาโมราคอมเพล็กซ์ในชางกูครั้งล่าสุด แต่โควิด-19 ทำให้ผู้ซื้อชาวต่างชาติเหลือไม่มากนัก
ราคาที่พักในเมืองเซมากิ ที่ห่างจากชางกูเพียงครึ่งชม. เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน ในปี 2562 โดยค่าเช่าที่ดิน พร้อมยานพาหนะให้ชาวต่างชาติใช้งาน มีราคาอยู่ที่ 8 ล้านรูเปี๊ยะห์ต่อพื้นที่ 100 ตารางเมตรต่อปี
ขณะที่ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ราคาเช่าลดลงเหลือ 6 ล้านรูเปี๊ยะห์/ปี แต่ขณะนี้มีการโฆษณาที่พักราคา 12 ล้านรูเปี๊ยะห์/ปี และจะเห็นได้ว่าโครงการวิลลาผุดขึ้นมาเยอะมากและรวดเร็วราวกับดอกเห็ด
อย่างไรก็ตาม แม้นักท่องเที่ยวกลับมาเยือนบาหลีอีกครั้ง แต่ยอดนักท่องเที่ยวยังต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งบาหลีมีนักท่องเที่ยวในเดือน ส.ค. ประมาณ 276,650 คน เพิ่มขึ้น 12%จากเดือน ก.ค. แต่ยังคงน้อยกว่าจำนวนท่องเที่ยวในเดือน ส.ค. ปี 2562 ประมาณครึ่งหนึ่ง
ด้าน“มานูเอล มอสโซนี” ประธานบริษัทสถาปนิก 2M Design Lab ให้ความเห็นว่า การย้ายถิ่นฐานภายในพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวและการลงทุนในอินโดนีเซีย ก็เป็นสาเหตุสำคัญทำให้มูลค่าของอสังหาฯในหลายพื้นที่ของบาหลีแพงขึ้น และอีกไม่นานตลาดอสังหาฯในชางกูจะถึงจุดอิ่มตัว เพราะไม่สามารถรองรับผู้คนจำนวนมากในพื้นที่เดียวได้ ขณะนักลงทุนก็กำลังสำรวจสถานที่อื่น ๆ เช่น เมืองอูลูวาตูทางตอนใต้ของบาหลี
ขณะที่อสังหาริมทรัพย์ในเมืองบาเลียน ที่อยู่ห่างจากชางกูในระยะเดินทางหนึ่งชั่วโมง ก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สำหรับนักลงทุน โดยนักลงทุนพากันกว้านซื้อและรอจังหวะเหมาะสมเพื่อเข้าไปทำธุรกิจ
บริษัทของมอสโซนีได้เพิ่มจำนวนพนักงานสองเท่าเป็น 30 คน และย้ายที่ทำงานไปยังที่ที่ใหญ่ขึ้นในปีนี้ เพื่อรองรับความต้องการของตลาด และเชื่อว่าราคาที่พักในบาหลียังปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีก