เผยโฉมสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 เชื่อมบึงกาฬ-บอลิคำไซ
นายกฯ วางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 เชื่อมบึงกาฬ-บอลิคำไซ สร้างโครงข่ายขนส่งอาเซียน เตรียมเปิดใช้ปี 2567
กระทรวงคมนาคมจัดพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - บอลิคำไซ) ในวันที่ 28 ต.ค.2565
โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นายพันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ร่วมในพิธี
ปัจจุบันประเทศไทยกับ สปป.ลาว มีสะพานข้ามแม่น้ำโขงขนาดใหญ่เพื่อเชื่อมโยงระหว่างประเทศแล้ว จำนวน 4 แห่ง ได้แก่
1.สะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 1 (หนองคาย - เวียงจันทน์)
2.สะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 2 (มุกดาหาร - สะหวันนะเขต)
3.สะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม - คำม่วน)
4.สะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 4 (เชียงของ - ห้วยทราย)
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้กรมทางหลวง (ทล.) ศึกษาความเหมาะสมการก่อสร้างตั้งแต่ปี 2555 ซึ่งต่อมาปี 2562 ครม.อนุมัติให้ดำเนินการก่อสร้างโครงการสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - บอลิคำไซ)
สำหรับรูปแบบการก่อสร้างของโครงการนี้ออกแบบเป็นสะพานขึงคอนกรีตอัดแรงรูปกล่อง ขนาด 2 ช่องจราจร ความยาว 1,350 เมตร แบ่งเป็นฝั่งไทย 815 เมตร และฝั่งลาว 0.535 เมตร
พร้อมอาคารด่านพรมแดนสำหรับกระบวนการข้ามแดน และถนนเชื่อมต่อโครงข่ายของทั้งสองฝั่ง ปัจจุบันมีความก้าวหน้าในการก่อสร้างเฉลี่ย 57% (ข้อมูล ณ เดือน ก.ย.2565) โดยจะเปิดให้บริการประชาชนของทั้ง 2 ประเทศได้ในปี 2567
นอกจากนี้ แนวคิดในการออกแบบโครงสร้างสะพานได้มีการนำ “แคน” ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีท้องถิ่น มาใช้ในการกำหนดรูปแบบทางสถาปัตยกรรม สะท้อนให้เห็นถึงความสนุก รื่นเริง ความเป็นมิตรไมตรี ความคุ้นเคย และความเป็นกันเองในวัฒนธรรมของไทยและ สปป.ลาว ส่งเสริมสัมพันธไมตรีอันดีระหว่างสองประเทศ สร้างความเจริญทางด้านสังคมและเศรษฐกิจได้อย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ เมื่อโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - บอลิคำไซ) แล้วเสร็จจะเป็นการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงที่จะส่งเสริมความเชื่อมโยงด้านการคมนาคมขนส่งระหว่าง 2 ประเทศ ตลอดจนประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียน เพื่อตอบสนองต่อความต้องการด้านการขนส่งสินค้า และการสัญจรของประชาชนที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ
รวมทั้งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการด้านการขนส่งภายใต้กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Greater Mekong Subregion Economic Cooperation : GMS) และยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี - เจ้าพระยา - แม่โขง (Ayeyawady - Chao Phraya - Mekong Economic Cooperation Strategy : ACMECS) เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโครงข่ายทางหลวงเชื่อมโยง 5 ประเทศ ได้แก่ เมียนมา ไทย สปป.ลาว เวียดนาม และกัมพูชา อย่างต่อเนื่อง และมั่นคง
นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า โครงการดังกล่าว จึงมีความสำคัญที่ขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลในด้านต่างๆ เช่น ด้านเศรษฐกิจการค้าชายแดน การส่งเสริมการท่องเที่ยว ด้านความมั่นคง ด้านรายได้และส่งเสริมอาชีพในชุมชน