เบื้องหลังจบศึกประธานบอร์ด ปตท. บทเรียนรัฐวิสาหกิจ "ล้านล้านบาท"
เปิดเบื้องหลังศึกภายใน “ปตท.” หลังปล่อยหนังสือ “ทศพร” ประธานบอร์ดลาออกในทุกตำแหน่ง ก่อนพลิกเกมสู้แชร์ข้อมูลภายในองค์กร “ประยุทธ์” รีบเคลียร์ช่วงเช้า เพื่อยุติปัญหา ดัน “ทศพร” นั่งหัวโต๊ะเปิดการประชุมบอร์ด ปตท. วันที่ 27 ต.ค. 2565 เป็นไปตามปกติ เสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ PTT มีกระทรวงการคลังถือหุ้นอยู่ถึง 51.11% นอกจากนี้ ยังเป็นบริษัทที่ช่วงครึ่งปีแรกปี 2565 ที่ผ่านมา ปตท. และบริษัทในกลุ่มทั้งใน และต่างประเทศ มีรายได้ 1,685,419 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิจำนวน 64,419 ล้านบาท ดังนั้นการปรับเปลี่ยนตัวผู้บริหารจึงเป็นที่จับตามอง
ด้วยกระแสความขัดแย้งภายในอย่างหนักของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ที่ถาโถมกลายเป็นเกมการเมืองยิ่งไปใหญ่ ส่วนหนึ่งมาจากการจัดสรรตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของบริษัทในกลุ่ม ปตท. ส่งผลให้มีการเผยแพร่ภาพถ่ายหนังสือยื่นลาออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการอิสระ และประธานกรรมการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ของ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานคณะกรรมการอิสระและประธานกรรมการ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เพื่อขอลาออกจากตำแหน่งในบอร์ด ปตท.ทั้งหมดโดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา
ต่อมาเมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2565 นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ได้ทำหนังสือชี้แจงผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระบุว่า ตามที่ปรากฏข่าวในสื่อบางแห่งเกี่ยวกับการลาออกของศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ทศพร ว่า ปตท. ยังไม่ได้รับหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานกรรมการ และกรรมการอิสระ ของศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ทศพร ตามที่ปรากฏในข่าวแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม เมื่อกระแสการลาออกของประธานบอร์ด ปตท. เริ่มมีการปล่อยข้อมูลต่างๆ ออกมา และมีการรายงานข่าวแจ้งว่าเดิม ปตท.จะมีการประชุมบอร์ด เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2565 แต่ต้องมีการเลื่อนการประชุมออกไปก่อน ซึ่งการลาออกของศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ทศพร นั้น จะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ต้องได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการบอร์ดบริหารด้วย
ต่อมาได้มีคำสั่งจากฝ่ายการเมืองเพื่อให้กรรมการ ปตท.ลงมติในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ปตท. วันที่ 27 ต.ค.2565 เพื่อถอด ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ทศพร ออกจากตำแหน่งประธานกรรมการ ปตท. โดยให้เหลือเพียงการเป็นกรรมการอิสระเพียงตำแหน่งเดียว เพราะการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งกรรมการ ปตท. จะต้องอาศัยเสียงของที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นเท่านั้น ถ้ากรรมการผู้นั้นไม่ลาออกในขณะที่ตำแหน่งประธานกรรมการจะเป็นการลงมติของที่ประชุมคณะกรรมการ ดังนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการสามารถมีมติเปลี่ยนแปลงตำแหน่งประธานกรรมการได้
ซึ่งตามรายงานข่าว ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ทศพร ไม่ยอมลาออก และยังส่งสัญญาณต่อต้านความเคลื่อนไหวดังกล่าว โดยจะเปิดเผยข้อมูลผ่านแอปพลิเคชัน Line ในการสั่งการบางอย่างที่ฝ่ายการเมืองเข้ามาล้วงลูกอันเป็นที่มาของความขัดแย้ง และความพยายามในการเปลี่ยนตัว ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ทศพร ในครั้งนี้
ทั้งนี้ ก่อนการประชุมบอร์ด ปตท. ปรากฏว่าในช่วงเช้า วันที่ 27 ต.ค. 2565) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อปรับความเข้าใจเกี่ยวกับข่าวการลาออกของ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ทศพร โดยเฉพาะรอยร้าวในการแต่งตั้งผู้บริหารบริษัทในเครือ ปตท. เพื่อให้สามารถจบลงด้วยดี โดยได้ข้อยุติปัญหาความขัดแย้งการแต่งตั้งผู้บริหารในเครือขณะเดียวกันก็ไม่ต้องมีการเปลี่ยนตัวประธานกรรมการ ปตท.
สำหรับการทำความเข้าใจเกี่ยวกับการแต่งตั้งผู้บริหารของบริษัทลูก ปตท. โดยในส่วนบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ได้มีการยอมให้ นายบัณฑิต ธรรมประจำจิต เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไทยออยล์ โดยนายกรัฐมนตรี ขอให้ทั้งสองฝ่ายทำงานร่วมกัน และอย่าได้มีความขัดแย้งกันอีกต่อไป
ส่วนบริษัทลูกของ ปตท. อีกบริษัทที่ ปตท.ถือหุ้น 75% ต้องเข้าสู่กระบวนการสรรหาประธานเจ้าหน้าที่บริหาร( CEO) ตามขั้นตอนรัฐวิสาหกิจ คือ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์(OR) ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้มีการประชุมผู้บริหารทั้งเครือ ปตท.หลายนัดหลายวาระ และเหลือตัวเลือกที่ดีที่สุด 2 คน คือ นายดิษทัต ปันยารชุน และนายสุชาติ ระมาศ ซึ่งปัจจุบันได้มีการวางตำแหน่งให้นายสุชาติเป็นที่เรียบร้อยแล้วคือ ตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2565 ที่ผ่านมา ในขณะที่ นายดิษทัต ได้ยื่นลาออกจากบอร์ดโออาร์ มีผลตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค. 2565 ที่ผ่านมา เพื่อเข้าสู่กระบวนการสมัครคัดเลือก CEO ตั้งแต่วันที่ 5-25 ต.ค. 2565 ที่ผ่านมา
นายอรรถพล กล่าวภายหลังประชุมบอร์ดเมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2565 ว่า ปตท. มีการจัดประชุมคณะกรรมการ ปตท. ซึ่ง ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ทศพร ยังคงทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุมเพื่อพิจารณาวาระการดำเนินการต่างๆ ตามปกติ โดยยืนยันว่า ปตท. ไม่ได้รับหนังสือลาออกจากคุณทศพร ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด
ทั้งนี้ คณะกรรมการ ปตท. ยังคงทำหน้าที่ในการกำกับดูแล ปตท. มุ่งบริหารจัดการภายใต้หลักธรรมาภิบาล โปร่งใส ตรวจสอบได้ ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันทุกรูปแบบ และมีความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย รวมทั้งสนับสนุนส่งเสริมให้สามารถบริหารผลการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในปี 2565 จนถึงปัจจุบัน ปตท. มีผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และยังดูแลสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อมของประเทศให้เกิดความยั่งยืนต่อไป
ผู้สื่อข่าว “กรุงเทพธุรกิจ” ได้สอบถามไปยังคณะกรรมการ (บอร์ด) ปตท. ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม และได้รับการยืนยันไปในทิศทางเดียวกันว่า การประชุมบอร์ด ปตท. วันที่ 27 ต.ค. 2565 เป็นการประชุมตามวาระปกติโดย ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ทศพร ทำหน้าที่เป็นประธานบอร์ดและไม่มีการพูดถึงประเด็นของความขัดแย้งและการลาออกของ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ทศพร แต่อย่างใด แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีการพยายามเปิดประชุมเพื่อลงมติอนุมัติการลาออกก็ตาม
“กรรมการหลายท่านถือว่าให้เกียรติการทำงานร่วมกัน คงไม่มีใครอยากไปรื้อฟื้นถึงปัญหาหรือกระแสข่าวที่เกิดขึ้น เพราะกรรมการทุกท่านถือว่าอยู่ในระดับผู้ใหญ่ทั้งหมด”
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์