'สแตนชาร์ต-เอชเอสบีซี' มั่นใจศก.จีน-ฮ่องกงแนวโน้มแข็งแกร่ง

'สแตนชาร์ต-เอชเอสบีซี' มั่นใจศก.จีน-ฮ่องกงแนวโน้มแข็งแกร่ง

ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด (สแตนชาร์ต) และธนาคารเอชเอสบีซีคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนและฮ่องกงจะฟื้นตัว แม้ว่ารัฐบาลจีนจะยังคงใช้มาตรการเข้มงวดในการควบคุมโรคโควิด-19 และแม้ว่าเศรษฐกิจฮ่องกงจะย่ำแย่ที่สุดในรอบกว่า 2 ปีในไตรมาส 3/2565 ก็ตาม

นายบิล วินเทอร์ส ซีอีโอของสแตนชาร์ตเปิดเผยกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า "ธุรกิจในฮ่องกงยังคงแข็งแกร่งเหมือนที่เคยเป็นมา ผลประกอบการของเราในฮ่องกงทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส 3 ปีนี้ แม้จะยังคงเผชิญกับปัจจัยลบต่าง ๆ เช่น มาตรการเข้มงวดในการควบคุมโรคโควิด-19 และความท้าทายต่าง ๆ ในประเทศจีน"

ทางการฮ่องกงเปิดเผยเมื่อวันที่ 31 ต.ค.ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในไตรมาส 3 ปรับตัวลง 4.5% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งปรับตัวลงติดต่อกัน 3 ไตรมาส
 

 สแตนชาร์ต เปิดเผยกำไรในไตรมาส 3 พุ่งขึ้น 40% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ และยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของรายได้ขึ้นสู่ระดับ 13% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 10% โดยนายวินเทอร์สกล่าวว่า ผลประกอบการของสแตนชาร์ตได้ปัจจัยหนุนจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้นและความเชื่อมั่นในตลาดที่เริ่มฟื้นตัว

ด้านนายโนเอล ควินน์ ซีอีโอของธนาคารเอชเอสบีซีได้แสดงมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจฮ่องกงเช่นกัน โดยเขากล่าวว่า "ผมเชื่อว่าเศรษฐกิจฮ่องกงจะดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งหลังจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 บรรเทาลง และผมมั่นใจอย่างมากว่า เศรษฐกิจฮ่องกงจะปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในปีหน้า"
 

"ส่วนเศรษฐกิจจีนนั้น ผมเชื่อว่าเมื่อวิกฤตการณ์โควิด-19 ผ่านพ้นไป จีนจะเริ่มกลับมาเปิดประเทศ และเศรษฐกิจจะขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง เอชเอสบีซีจะยังคงลงทุนในประเทศจีน เพราะเราเห็นถึงแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่ง และเราเชื่อว่าตลาดจีนจะผงาดขึ้นเป็นตลาดการอุปโภคบริโภคที่แข็งแกร่งมากขึ้นในช่วง 10 ปีข้างหน้า" นายควินน์กล่าวกับซีเอ็นบีซี

อย่างไรก็ดี ผลกำไรในไตรมาส 3 ของเอชเอสบีซีร่วงลง 42% เนื่องจากหนี้เสียที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการขายธุรกิจในฝรั่งเศส