“จุรินทร์”ย้ำประกันรายได้ 3 ปี เพิ่มรายได้เกษตรกร

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีมอบใบรับรองการขึ้นทะเบียนองค์กรเกษตรกรและมอบใบรับรองการจัดการหนี้ให้กับเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พร้อมติดตามความคืบหน้าโครงการประกันรายได้เกษตรกร และตรวจเยี่ยมโครงการ “พาณิชย์...ลดราคา! ออนทัวร์ทั่วไทย” Lot 21 ที่วัดประชุมศึกษา (วัดทุ่งมะพร้าว) อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ว่า ตนมาจังหวัดพังงาครั้งนี้ เพื่อมาทำกิจกรรม 3 เรื่อง คือ 1.มาติดตามนโยบายประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว มัน ยาง ปาล์ม 2.มาเปิดโครงการ “พาณิชย์...ลดราคา! ออนทัวร์ทั่วไทย” Lot 21 นำของราคาถูกมาช่วยลดภาระค่าครองชีพ และ 3.มาเป็นประธานการมอบเช็คชำระหนี้ และมอบโฉนดที่ดินของกองทุนฟื้นฟูช่วยเหลือเกษตรกร ให้แก่เกษตรกรจังหวัดพังงา 

ที่ผ่านมา ตนทำหน้าที่หลายอย่าง นอกจากการเป็นผู้แทนราษฎรของชาวพังงาแล้ว ยังเป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อทำให้เกษตรกรได้ประโยชน์มากที่สุด นำเงินเข้ากระเป๋าพี่น้องไปแล้ว 3 ปีกว่า ราคาพืชผลการเกษตรดีเกือบทุกตัว ยางพารา ราคาดีขึ้นจากสมัยก่อน แต่ที่ราคาลงช่วงนี้ เพราะเศรษฐกิจโลกไม่ดี ยางรถยนต์ขายได้ลดลง ซึ่งช่วงปลายปีถึงต้นปีหน้าราคายางก็มีโอกาสขยับดีขึ้น แต่ถ้าวันไหนราคายางตก ก็ยังมีประกันรายได้เกษตรกร สำหรับปาล์มน้ำมันในช่วงก่อนที่ตนมาดูแล ราคาตก เนื่องจากมีการลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ตนจึงออกมาตรการห้ามนำเข้าปาล์มทางบก และพาเอกชนเดินทางไปประเทศอินเดียเพื่อขายปาล์ม 2 ล็อต ทำให้สามารถเปิดตลาดต่างประเทศได้ถึง 5-600% รวมทั้งการปรับการใช้น้ำมัน B5 เป็น B7  B10 ทำให้ราคาปาล์มทรงตัวในช่วงที่ประเทศอินโดนีเซีย และมาเลเซียพยายามดึงราคาให้ต่ำลงในขณะนี้

 “ชีวิตผม ผมรู้จักหัวใจชาวสวนปาล์มดี พี่น้องไม่ต้องกังวล ไม่ทุ่มกัน ช่วยดูแลให้พี่น้องเสมอ แล้วถ้าวันไหนยางตก ปาล์มตก มีประกันรายได้ ที่เป็นนโยบายประชาธิปัตย์ เพราะเราตั้งใจจะช่วยชาวสวนยาง ชาวสวนปาล์ม วันที่ราคายาง ราคาปาล์ม ตกรูดมโหฬาร เราจะได้มีประกันรายได้เพื่อเป็นหลักประกันให้พี่น้อง”นายจุรินทร์กล่าว

สำหรับกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรฯ เป็นกองทุนที่เกิดขึ้นเพื่อช่วยแก้ปัญหาหนี้สินให้กับเกษตรกรที่ชำระหนี้ไม่ไหวกับสถาบันการเงิน ให้มาเป็นหนี้กับกองทุนฯ ด้วยดอกเบี้ย 0% ซึ่งจะทำให้ที่ดินเกษตรกรไม่ถูกยึด เพราะไม่ต้องการให้ที่ดินทำกินของเกษตรกรต้องตกไปอยู่ในมือของนายทุน

ทั้งนี้ นายจุรินทร์ ได้แนะนำ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เลขานุการประธานรัฐสภา โดยระบุว่า ตนกับราเมศ เหมือนกันตรงที่เคยเป็นเลขานายชวน หลีกภัย สมัยที่ตนเป็นผู้แทนสมัยแรก ปี 29 และสมัยที่ 2 ปี 31 นายชวน เลือกนายจุรินทร์ ส.ส.ของพี่น้องชาวพังงา ไปเป็นเลขารัฐมนตรี ทำให้ได้มีโอกาสเป็นเลขารัฐมนตรีครบทั้ง 3 กระทรวง เพราะฉะนั้น ราเมศ วันนี้เป็นเลขาประธานรัฐสภา ก็ถือว่าเหมือนกับที่ตนเคยทำมาตอนเริ่มต้นชีวิตทางการเมืองใหม่ ๆ สิ่งหนึ่งที่ช่วยการันตี ก็คือ ท่านชวนมีสายตายาวไกล การเลือกคนไปเป็นเลขาแต่ละคน ก็จะเลือกคนดี มีความรู้ความสามารถมีศักยภาพที่จะไปช่วยงานได้ ดร. สุรินทร์ พิศสุวรรณ ก็เคยเป็นเลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร เพราะฉะนั้นการที่นายชวน เลือกราเมศ ก็เป็นหลักประกันอันหนึ่งว่า ราเมศ เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ มีศักยภาพ