ดาวโจนส์ร่วง 194 จุด กังวลเศรษฐกิจถดถอย หลังภาคการผลิตหดตัว
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันพฤหัสบดี(1ธ.ค.)ปรับตัวร่วงลง 194 จุด ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังภาคการผลิตสหรัฐหดตัวครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลดลง 194.76 จุด หรือ 0.56% ปิดที่ 34,395.01 จุด
ดัชนีเอสแอนด์พี500 ลดลง 3.54 จุด หรือ 0.09% ปิดที่ 4,076.57 จุด
ดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 14.45 จุด หรือ 0.31% ปิดที่ 11,482.45 จุด
สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 49.0 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2563 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 49.8 จากระดับ 50.2 ในเดือนต.ค.
ดัชนีปรับตัวต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ภาวะหดตัวของภาคการผลิตสหรัฐ ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 2 ปีครึ่ง ขณะที่การดีดตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยได้ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ในตลาด
นอกจากนี้ ดัชนีถูกกดดันจากการร่วงลงของคำสั่งซื้อใหม่ ซึ่งหดตัวเป็นเดือนที่ 3 รวมทั้งการชะลอตัวของการจ้างงาน
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อได้ผ่านจุดสูงสุด
ทั้งนี้ ดัชนี PCE ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 6.0% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวจากระดับ 6.3% ในเดือนก.ย.
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE ทั่วไป เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนต.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากดีดตัวขึ้น 0.3% เช่นกันในเดือนก.ย.
ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3% หลังจากดีดตัว 0.5% ในเดือนก.ย.
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PCE พื้นฐานเพิ่มขึ้น 5.0% ในเดือนต.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากเพิ่มขึ้น 5.2% ในเดือนก.ย.
ทั้งนี้ ดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
ส่วนกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 16,000 ราย สู่ระดับ 225,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 236,000 ราย
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้น 0.8% ในเดือนต.ค. และสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนก.ย.
นอกจากนี้ รายได้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนต.ค. ขณะที่อัตราการออมลดลงสู่ระดับ 2.3% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2548
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 200,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 261,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนพ.ย.ทรงตัวที่ระดับ 3.7%