จีนเตรียมแพ็กเกจล้านล้านหยวนช่วยบ.ชิพรับมือสหรัฐกดดัน
แหล่งข่าวสามรายเผย จีนกำลังทำชุดมาตรการช่วยเหลือกว่า 1 ล้านล้านหยวน (1.43 แสนล้านดอลลาร์) ช่วยอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ถือเป็นก้าวย่างครั้งสำคัญสู่การพึ่งพาตนเองด้านชิพ และรับมือกับความเคลื่อนไหวของสหรัฐที่พยายามสกัดดาวรุ่ง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างแหล่งข่าวสามรายว่า รัฐบาลปักกิ่ง มีแผนเปิดตัวมาตรการจูงใจทางการเงินครั้งใหญ่สุดครั้งหนึ่งของประเทศจัดสรรให้ตลอดห้าปี ส่วนใหญ่อยู่ในรูปของการอุดหนุนและเครดิตภาษีเพื่อสนับสนุนการผลิตเซมิคอนดักเตอร์และโครงการวิจัยในประเทศ
นักวิเคราะห์มองว่า นี่เป็นการส่งสัญญาณว่าจีนกำลังเข้ามาออกแบบอนาคตอุตสาหกรรมชิพโดยตรง ซึ่งอุตสาหกรรมนี้กำลังเป็นประเด็นร้อน เนื่องจากความต้องการชิพเพิ่มสูงขึ้นทุกขณะ และรัฐบาลปักกิ่งมองว่าอุตสาหกรรมนี้เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อสำหรับแสนยานุภาพด้านเทคโนโลยีของตน
แน่นอนว่าแผนการของรัฐบาลปักกิ่งจะเพิ่มความกังวลให้กับสหรัฐและพันธมิตรเรื่องขีดความสามารถด้านการแข่งขันของจีนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ สมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐจำนวนหนึ่งวิตกกังวลเรื่องการเพิ่มขีดความสามารถด้านการผลิตชิพของจีนไปเรียบร้อยแล้ว
แหล่งข่าวสองรายผู้ไม่เปิดเผยนามกล่าวว่า แผนนี้จะนำมาปฏิบัติได้เร็วสุดไตรมาสแรกของปี 2566 ความช่วยเหลือทางการเงินส่วนใหญ่จะใช้เพื่ออุดหนุนบริษัทจีนซื้ออุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ในประเทศ ส่วนใหญ่เป็นโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์ แหล่งข่าวทั้งสามคนกล่าวว่า บริษัทเหล่านั้นจะได้รับเงินอุดหนุน 20% ของต้นทุนการซื้อ
แผนความช่วยเหลือทางการเงินดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐออกระเบียบหว่านแหเมื่อเดือน ต.ค. ถึงขนาดอาจกีดกันห้องทดลองวิจัยและศูนย์ข้อมูลเศรษฐกิจไม่ให้เข้าถึงชิพเอไอก้าวหน้าไม่เพียงเท่านั้น สหรัฐยังล็อบบีพันธมิตรจำนวนหนึ่ง เช่น ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ ให้ควบคุมการส่งออกอุปกรณ์ใช้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ไปยังจีน
ก่อนหน้านั้นในเดือน ส.ค. ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามร่างกฎหมายฉบับประวัติศาสตร์ให้เงินช่วยเหลือ 5.27 หมื่นล้านดอลลาร์สำหรับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์สหรัฐ การวิจัย และให้เครดิตภาษีโรงงานผลิตชิพมูลค่าประมาณ 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์
สำหรับแผนการล่าสุดของ จีน รัฐบาลปักกิ่งต้องการเพิ่มการสนับสนุนบริษัทชิพของตนให้ปรับโรงงานให้ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นโรงงานผลิต, ประกอบ, ทำแพ็กเกจ และศูนย์วิจัยและพัฒนา และให้สิทธิพิเศษทางภาษีแก่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
รอยเตอร์ขอความเห็นจากสำนักงานข้อมูลสภาแห่งรัฐแต่ไม่ได้คำตอบ
ผู้รับประโยชน์จากนโยบาย
ผู้ได้รับประโยชน์มีทั้งรัฐวิสาหกิจและวิสาหกิจเอกชนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ที่โดดเด่นคือบริษัทอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่อย่าง นอราเทคโนโลยีกรุ๊ป, แอดวานซ์ไมโคร-แฟบริเคชัน อิควิปเมนท์อิงค์ไชนา และคิงเซมิ
หุ้นบริษัทผลิตชิพจีนพุ่งในการซื้อขายช่วงเช้าวันพุธ (14 ธ.ค.) รับแผนแพ็กเกจช่วยเหลือ ดัชนี
STARCHIP ของจีนเปิดบวกเกือบ 4% หุ้น บริษัทเอสเอ็มไอซี ยักษ์ใหญ่ในวงการ ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ เพิ่มขึ้นมากถึง 5.2% สู่ระดับสูงสุดในรอบสี่เดือน
หุ้นบริษัทชิพจีน ในตลาดฮ่องกงขึ้นแรงในวันอังคาร (13 ธ.ค.) หลังรอยเตอร์รายงานข่าวเอ็กซ์คลูสีฟเรื่องนี้ หุ้นเอสเอ็มไอซีขึ้นอีกกว่า 8% ส่งผลราคารายวันขึ้นไปเกือบ 10% ฮัวฮองเซมิคอนดักเตอร์ปิดบวก 17%
การพึ่งพาตนเองได้ด้านเทคโนโลยีเป็นหัวใจสำคัญในรายงานฉบับเต็มที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงอ่านในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เมื่อเดือน ต.ค. คำว่า “เทคโนโลยี” ถูกพูดถึง 40 ครั้ง เพิ่มขึ้นจาก 17 ครั้งในการประชุมสมัชชาใหญ่ปี 2550
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การที่สีเรียกร้องให้จีน “เอาชนะศึก” ด้านเทคโนโลยีสำคัญ อาจส่งสัญญาณปักกิ่งเปลี่ยนแนวทางครั้งใหญ่หันไปทำอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของตนให้ก้าวหน้า รัฐเป็นผู้นำทุ่มเทงบประมารณและเข้าแทรกแซงเพื่อรับมือกับแรงกดดันจากสหรัฐ
การคว่ำบาตรของสหรัฐในเดือน ต.ค.เป็นเหตุให้บริษัทอุปกรณ์การผลิตชิพรายใหญ่ในต่างประเทศยุติการซัพพลายสินค้าให้กับผู้ผลิตชิพจีน เช่น แยงซีเมมโมรีเทคโนโลยีและเอสเอ็มไอซี ขณะเดียวกันผู้ผลิตชิพเอไอก้าวหน้าต้องหยุดซัพพลายสินค้าให้บริษัทและห้องทดลองหลายแห่ง
ด้านจีนมิได้นิ่งเฉย เมื่อวันจันทร์ (12 ธ.ค.) กระทรวงพาณิชย์จีนยื่นเรื่องต่อองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) ขอปรึกษาหารือข้อพิพาทการค้ากับสหรัฐกรณีมาตรการควบคุมการส่งออกชิพ
ทั้งนี้ ภาคส่วนอุปกรณ์ผลิตชิพของจีนล้าหลังส่วนอื่นๆ ของโลกมานาน โดยเจ้าตลาดยังเป็นบริษัทในสหรัฐ ญี่ปุ่น และเนเธอร์แลนด์ ช่วง 20 ปีที่ผ่านมาบริษัทจีนจำนวนหนึ่งเติบโตขึ้น แต่ส่วนใหญ่ยังตามหลังคู่แข่งในแง่ความสามารถผลิตชิพก้าวหน้า ตัวอย่างเช่น บริษัทนอราผลิตได้แค่ชิพ 28 นาโนเมตรขึ้นไปเท่านั้น ซึ่งก็ถือว่าเป็นเทคโนโลยีก้าวหน้าแล้ว
เซี่ยงไฮ้ไมโครอิเล็กทรอนิกส์อีควิปเมนท์กรุ๊ป บริษัทพิมพ์ลายเซอร์กิตลงบนแผ่นซิลิคอนเวเฟอร์เพียงรายเดียวของจีน สามารถผลิตชิพ 90 นาโนเมตรได้ แต่ยังห่างชั้นจากบริษัทเอเอสเอ็มแอลของเนเธอร์แลนด์ที่ผลิตชิพได้ถึง 3 นาโนเมตร
นายแดน ฮันชิสัน นักเศรษฐศาสตร์ชิพจากบริษัทเทคอินไซต์กล่าวว่า ชุดมาตรการช่วยเหลืออุตสาหกรรมชิพนับล้านล้านหยวนของจีนอาจกระตุ้นให้สหรัฐและชาติพันธมิตรเข้มงวดกับจีนมากขึ้นไปอีก
จะว่าไปแล้วความพยายามสกัดความฝันด้านไฮเทคจีนของสหรัฐมีมาตั้งแต่รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มจากตัดหัวเว่ย เทคโนโลยีส์ บริษัทเทคโนโลยีใหญ่สุดของโลกไม่ให้เข้าถึงตลาดและเทคโนโลยีสหรัฐ
นอกจากนี้รายงานล่าสุดจากรอยเตอร์ยังระบุว่า เอสเอ็มไอซี บริษัทผลิตชิพรายใหญ่สุดของจีน กำลังเพิ่มการผลิตเทคโนโลยีชิพรุ่นเก่าหัวใจสำคัญในห่วงโซ่อุปทานภาคอุตสาหกรรมหลายอย่าง ถือเป็นจุดเริ่มต้นระฆังเตือนภัยให้กับสหรัฐและกระตุ้นให้สมาชิกสภาคองเกรสจำนวนหนึ่งพยายายามจะหยุดยั้ง
สาเหตุที่สหรัฐต้องกังวลกับเทคโนโลยีชิพรุ่นเก่าของจีน นักจับตาจีนอธิบายว่าในปี 2563 จีนซึ่งครองตลาดชิพโลก 9% มีประวัติยาวนานในการครอบงำเทคโนโลยีสำคัญด้วยการนำสินค้าราคาถูกเข้าทุ่มตลาดจนคู่แข่งอื่นอยู่ไม่ได้
นายแมตต์ พอตทิงเจอร์ อดีตผู้ช่วยที่ปรึกษาด้านความมมั่นคงแห่งชาติรัฐบาลทรัพม์ ผู้ัเคยศึกษานโยบายชิพที่สถาบันฮูเวอร์กล่าวว่า จีนเคยทำแบบนี้มาแล้วกับแผงพลังงานแสงอาทิตย์และอุปกรณ์โทรคมนาคม 5จี และอาจทำแบบนี้กับชิพเทคโนโลยีเก่าอีกก็ได้
“มันจะให้พละกำลังแก่ปักกิ่งเหนือกว่าทุกประเทศและทุกอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็นด้านพลเรือนหรือทหาร ที่ต้องใช้ชิป 28 นาโนเมตร นั่นเป็นจักรวาลชิพที่ใหญ่มหึมามหาศาล” นายพอตทิงเจอร์ให้ความเห็น
ฮัตชิสัน ผู้จับตาขีดความสามารถการผลิตชิพมาสี่ทศวรรษ กล่าวเพิ่มเติมว่า 28 นาโนเมตร คือเทคโนโลยีชิพที่ใช้กันมาตั้งแต่ปี 2554 และยังใช้แพร่หลายในรถยนต์ อาวุธ และอุปกรณ์ประเภทระเบิดในอินเทอร์เน็ตของทุกสรรพสิ่ง ความกังวลอยู่ที่ว่าเอสเอ็มไอซีและบริษัทผลิตชิพรายอื่นๆ ในจีนอาจใช้การอุดหนุนของรัฐบาลขายชิพราคาถูก และการสนับสนุนทางการเงินรอบใหม่อาจเพิ่มกำลังการผลิตชิพได้อีก
“จีนแค่ทุ่มตลาดด้วยเทคโนโลยีเหล่านี้ บริษัทปกติก็แข่งไม่ได้แล้ว เพราะพวกเขาไม่มีเงินมากระดับนั้น” ฮัตชิสันกล่าว
ความกังวลนี้ผลักดันให้สมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐจำนวนหนึ่งใช้กฎหมายกำหนดงบประมาณกลาโหมสกัดเอสเอ็มไอซี แม้มาตรการที่ว่าจะเบากว่าที่เคยเสนอไปก่อนหน้านี้ แต่สัปดาห์นี้คาดว่าสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐจะผ่านกฎหมายป้องกันราชอาณาจักร2023 ซึี่งจะมีหมวดที่ห้ามรัฐบาลสหรัฐใช้ชิพจากเอสเอ็มไอซีและบริษัทผลิตชิพความจำจีนอีกสองราย มีผลบังคับใช้ในห้าปีหลังจากออกมาเป็นกฎหมายแล้ว ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าข้อจำกัดนี้จะส่งผลกระทบต่อเอสเอ็มไอซีมากน้อยแค่ไหน