ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับตัวขึ้น 90 เซนต์ ขานรับคาดการณ์อุปสงค์จากจีน
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปิดวันจันทร์(19ธ.ค.)พุ่งขึ้น 90 เซนต์ จากความหวังที่ว่าจีนจะกลับมาเปิดประเทศ หลังมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นปัจจัยเพิ่มความต้องการใช้น้ำมัน
ราคาน้ำมัน ยังได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะเพิ่มความน่าดึงดูดของสัญญา โดยทำให้สัญญาน้ำมันมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนม.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ บวก 90 เซนต์ สู่ระดับ 75.19 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 76 เซนต์ ปิดที่ราคา 79.80 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนส่งแรงซื้อเก็งกำไรเข้าตลาด หลังราคาน้ำมันดิ่งลงก่อนหน้านี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ขณะเดียวกัน กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ออกรายงานคาดการณ์การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันตลาดโลกในปีหน้า โดยได้ปัจจัยบวกจากความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐและจีน
ทั้งนี้ ในรายงานภาวะตลาดน้ำมันประจำเดือนธ.ค. โอเปกระบุว่า อุปสงค์น้ำมันจะเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2566 สู่ระดับ 101.8 ล้านบาร์เรล/วัน โดยได้ปัจจัยหนุนจากภาวะผ่อนคลายด้านภูมิรัฐศาสตร์ และการที่จีนสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19
โอเปกยังระบุว่า อุปสงค์น้ำมันในสหรัฐจะเพิ่มขึ้นสูงกว่าในปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19
ด้านสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ออกรายงานระบุว่า ราคาน้ำมันจะพุ่งขึ้นในปี 2566 โดยได้รับผลกระทบจากภาวะตึงตัวในตลาดจากการที่ชาติตะวันตกใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย ขณะที่อุปสงค์น้ำมันสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์
IEA คาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันโลกจะเพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2566 สู่ระดับ 101.6 ล้านบาร์เรล/วัน โดยได้แรงหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันจากอินเดียและจีน