การรถไฟฯ จับมือ 'ทรูมันนี่' เปิดชำระค่าตั๋วผ่านแอปพลิเคชัน
การรถไฟแห่งประเทศไทย ร่วมกับ ทรูมันนี่ พัฒนาการเดินทางสู่สังคมไร้เงินสด เพิ่มทางเลือก การซื้อตั๋วโดยสารครบวงจร บริการชำระค่าตั๋วโดยสาร ผ่านการสแกนจ่ายด้วยแอปพลิเคชันทรูมันนี่ วอลเล็ท ครอบคลุม 439 สถานีทั่วประเทศ
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า การนำระบบการชำระเงินด้วยทรูมันนี่ วอลเล็ท ผ่านเครื่องสแกนคิวอาร์โค๊ด เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพการรับชำระค่าตั๋วรถไฟ เพื่ออำนวยความสะดวก รวดเร็ว และเป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้ใช้บริการ รองรับสังคมไร้เงินสด โดยในช่วงที่ผ่านมา การรถไฟฯ ได้ร่วมกับ บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด ดำเนินการติดตั้งเครื่องรับบัตรอัตโนมัติ เพื่อรองรับการชำระค่าตั๋วโดยสารด้วยระบบ Mobile Payment นับว่าเป็นก้าวสำคัญของสังคมรถไฟยุคใหม่ ไม่ใช้เงินสด
โดยปัจจุบัน ร.ฟ.ท.ได้ติดตั้งเครื่องรับบัตรอัตโนมัติพร้อมใช้งาน 439 สถานี จำนวน 580 เครื่อง เช่น สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ สถานีกรุงเทพ เชียงใหม่ อุบลราชธานี หนองคาย ชุมทางหาดใหญ่ ชุมพร เป็นต้น เพื่อรองรับชำระค่าตั๋วรถไฟสแกนผ่าน แอพพลิเคชัน ทรูมันนี่ วอลเล็ท บนสมาร์ทโฟน โดยผู้ใช้บริการสามารถดาวน์โหลดระบบการจ่ายค่าตั๋วรถไฟด้วย ทรูมันนี่ วอลเล็ท ได้ทั้ง Play Store และ App Store รองรับการใช้งานได้ถึง 4 ภาษา ทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ พม่า และกัมพูชา พร้อมให้บริการแล้ววันนี้
ขณะที่ปัจจุบันผู้โดยสารส่วนใหญ่ยังคงนิยมชำระค่าตั๋วรถไฟด้วยเงินสดกว่า 92% มีเพียง 6% เท่านั้นที่ชำระด้วยบัตรเครดิต ดังนั้น รูปแบบของรถไฟที่ทันสมัยและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เริ่มคุ้นชินกับการชำระเงินด้วย QR Code จึงมีโอกาสขยายตัวเพิ่มขึ้น เพราะเป็นบริการที่ตอบรับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค สำหรับการเปิดให้บริการซื้อตั๋วรถไฟผ่านแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อ e-Wallet เข้ากับการซื้อตั๋วเดินทางในครั้งนี้ จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้คนไทยสามารถเข้าถึงการเดินทางได้สะดวกยิ่งขึ้น
นางสาวมนสินี นาคปนันท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด กล่าวว่า การร่วมมือกับ ร.ฟ.ท. ครั้งนี้ ถือเป็นการช่วยอำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่ลูกค้าของทรูมันนี่ที่มีอยู่กว่า 26 ล้านคนทั่วประเทศไทย เพราะไม่ว่าจะเดินทางไกลหรือใกล้ก็ไม่จำเป็นต้องพกเงินสด อีกทั้งเป็นการเพิ่มทางเลือกใหม่ในการชำระค่าโดยสารให้แก่ผู้ใช้บริการของการรถไฟฯ และตอบรับกับกระแสสังคมไร้เงินสดที่กำลังเติบโตขึ้น พร้อมตอกย้ำความเป็นแพลตฟอร์มที่ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายของผู้บริโภคของทรูมันนี่ด้วย