“บางเรื่องดีๆ ของสี จิ้นผิง”

แต่รัฐนี้แหละครับ ที่ สี จิ้นผิง สมัยเป็นรองประธานาธิบดี ต้องการจะไปเยือน และเป็นการเยือนที่น่าประทับใจ 

ย้อนกลับไปเมื่อปี 1985 สี จิ้นผิง ซึ่งเป็น เลขาธิการพรรคในระดับมณฑล ได้พาคณะไปดูงานด้านการเกษตรที่รัฐ Iowa ซึ่งปลูกข้าวโพดกันทั้งรัฐ 

เขาพักค้างคืนที่เมืองเล็กๆแห่งหนึ่ง ชื่อว่า Muscatine เจ้าของบ้านคือ Mr. & Mrs. Dvorchak ได้จัดให้เขานอนในห้องของบุตรชาย ซึ่งไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัย

สี จิ้นผิง นอนค้าง 2 คืน แต่เขาไม่เคยลืมสถานที่แห่งนี้

ในปี 2012 เขากลับไปเยือนอเมริกาอย่างเป็นทางการ ในตำแหน่ง “รองประธานาธิบดี” เขาได้ขอแวะไป Iowa เพื่อชมบ้านที่เขาเคยพักเมื่อเกือบ 30 ปีก่อน

ขณะนั้นเจ้าของบ้าน ได้ย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่รัฐฟลอริด้าแล้ว แต่เมื่อคนสำคัญระดับรองประธานาธิบดีขอไปเยือน สองสามีภรรยาจึงบินกลับไปพบ สี จิ้นผิง ที่บ้านหลังเดิม

 

สี จิ้นผิง กล่าวว่า “ผมจำได้ว่าผมนอนในห้องลูกชายคุณ”...“ลูกสาวคุณน่ารักมาก เธอถามคำถามผมมากมาย”….“เธอถามผมว่าเคยดูภาพยนตร์อเมริกันไหม ผมตอบเธอว่า เคยดูเรื่อง The Deer Hunter และ The Godfather”... 

“... ส่วนคุณก็ทำอาหารเช้าจานเบ้อเร่อให้ผมทาน แต่กลับพูดว่าไม่อยากให้ผมอ้วน” คำพูดของเขา เรียกเสียงหัวเราะเป็นระยะๆ

ต่อมา สี จิ้นผิง ได้เป็น “ประธานาธิบดี” เขาได้เชิญ Mr. & Mrs. Dvorchak พร้อมครอบครัว ไปทานอาหารค่ำ ซึ่งสองสามีภรรยาได้ค้นภาพเก่าๆ ตอนที่สี จิ้นผิง ไปนอนที่บ้าน รวบรวมมอบให้เป็นอัลบั้ม  

ส่วน Gary บุตรชายคนที่ สี จิ้นผิง เคยนอนในห้องของเขา ก็มีโอกาสพบ สี จิ้นผิง เป็นครั้งแรกด้วย

บ้านหลังนี้ที่ Iowa หลังจากที่ สี จิ้นผิง ไปเยือน ก็เป็นข่าวใหญ่ และอีก 5 เดือนต่อมา ในเดือนกันยายน 2015 ก็ได้รับการปรับปรุงให้เป็น พิพิธภัณฑ์ “The Sino-American Friendship House” 

มีนักท่องเที่ยวและผู้สนใจไปชมบ้านหลังนี้ อย่างต่อเนื่อง แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงไป... เมื่อ โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดี

ทรัมป์  ทำให้ความสัมพันธ์อเมริกา-จีน ร้าวฉานอย่างหนัก  มีผลให้คนอเมริกันมอง สีจิ้นผิง และคนจีน อย่างไม่เป็นมิตรตามไปด้วย ความตื่นเต้นกับบ้านหลังนี้ จึงเจือจางลง และผู้คนไปเยือนน้อยลง จนในที่สุดก็หมดความสนใจ

สี จิ้นผิง จะยังผูกพันกับบ้านหลังนี้เพียงใด ผมไม่ทราบ แต่ผมทราบว่า ทรัมป์ เพิ่งประกาศจะสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งถ้าเขาประสบความสำเร็จ ผมคิดว่าเป็นข่าวร้ายมากครับ

เรื่องของ  สี จิ้นผิง มีอีกเรื่องหนึ่งที่ไม่ค่อยมีใครทราบ และผมอยากจะเล่าให้ฟัง...

ศาสตราจารย์ชาวอเมริกันคนหนึ่ง ชื่อว่า Professor Gardner เขาเกิดในประเทศจีน แต่เมื่อเรียนจบก็ได้สอนหนังสือในอเมริกา ในช่วงที่เขาป่วยระยะสุดท้าย เขาเพ้อคำว่า “Kuling” เป็นระยะๆ ซึ่งภรรยาก็ไม่ทราบว่านั่นคืออะไร

เธอคิดว่าน่าจะเป็นเมืองในประเทศจีน ที่เขามีความผูกพันในสมัยเด็ก และเธอพยายามค้นหา แต่ก็ไม่พบจนกระทั่งเขาเสียชีวิต

หลังจากนั้น มีนักข่าวจีนมาสัมภาษณ์เธอ และเขียนข่าวเป็นภาษาจีน อีกไม่นานนัก คุณ Gardner ก็ได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่จีน ให้เดินทางไปเยือนเมือง Kuling รวมทั้งอำนวยความสะดวกให้ทุกประการ เพื่อทำความฝันสุดท้ายของสามี ให้เป็นจริง

ผู้ที่อยู่เบื้องหลังคือ สี จิ้นผิง ครับ เขาได้อ่านบทสัมภาษณ์ แล้วสั่งการให้เจ้าหน้าที่รีบเชิญเธอไปเยือนทันที

นี่คือมุมดีๆอีกมุมหนึ่งของ สี จิ้นผิง และที่ผมนำมาเล่าก็เพราะผมเป็นประธาน “หลักสูตรผู้นำ” ผมจึงอยากชี้ให้เห็นว่า ในหัวใจของผู้นำนั้น นอกจากจะต้องแข็งแกร่งและเด็ดขาดแล้ว ควรมีความอ่อนโยนต่อเพื่อนมนุษย์ รวมอยู่ด้วย

คนต่างชาติซึ่งไปพำนัก ที่ Iowa กับครอบครัวชาวอเมริกัน คงไม่ได้มีเพียง สี จิ้นผิง เท่านั้นนะครับ เท่าที่ทราบมี คนไทย คนหนึ่ง ซึ่งไปพักกับครอบครัวที่ Iowa เป็นเวลา 1 ปีเต็มๆ... นานกว่า สี จิ้นผิง เสียอีก 

พักที่เมืองเล็กๆเหมือนกัน ชื่อเมือง Nevada รัฐ Iowa เด็กนักเรียนทุน AFS วัย 16 ปีคนนี้ ไปพักกับครอบครัว Dr. & Mrs. Don A. Hale และเรียกเจ้าของบ้านว่า Dad กับ Mom และได้รับความรักความอบอุ่น เสมือนเป็นบุตรชาย 

ผูกพันกันเรื่อยมา ส่งอาหารอร่อยๆจากเมืองไทยไปให้ทานบ้าง แวะเวียนไปมาหาสู่กันบ้าง เด็กไทยรับปริญญาโท และปริญญาเอก ครอบครัวนี้ก็เดินทางข้ามรัฐ ไปร่วมภาคภูมิใจกับลูกชายคนไทยด้วย 

เด็กคนนั้น คือคนที่กำลังเขียนบทความให้คุณอ่านอยู่นี้ครับ ทุกวันนี้เขายังติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยคงทำให้คนอเมริกันครอบครัวหนึ่ง รับรู้ว่า คนไทยไม่เคยลืมบุญคุณคน 

ค่านิยมไทย และจีน ในเรื่องของความกตัญญู คงคล้ายๆกันนะครับ 

สี จิ้นผิง กับเด็กไทยคนนี้ แม้จะมี ส่วนคล้ายกันอยู่บ้างในเรื่อง Iowa แต่ก็เพียงแค่นั้น เพราะหลังจากนั้น แตกต่างกันเยอะเลยครับ 

สี จิ้นผิง ไปพัก Iowa 2 คืน ต่อมาได้เป็นถึง ประธานาธิบดี

เด็กไทยที่ ไปพัก Iowa 1 ปี วันนี้ยังกระจอกอยู่เลยครับ