จีนประกาศลดสัดส่วนดอลลาร์,ยูโรในตะกร้าเงิน เริ่ม 1 ม.ค.66
จีนประกาศลดสัดส่วนของดอลลาร์และยูโรในดัชนีตะกร้าเงินหยวนในปี 2566 หลังจากกระทรวงการคลังสหรัฐ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2564 ถึงเดือนพ.ค.ปี 2565 จีนถือครองพันธบัตรสหรัฐลดลงมาอยู่ที่ 9.8 แสนล้านดอลลาร์ ลดลงเกือบ 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ China Foreign Exchange Trade System (CFETS) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีน และมีการกำกับดูแลโดย ธนาคารกลางจีน แถลงว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2566 CFETS จะลดสัดส่วนน้ำหนักสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในตะกร้าเงินของ CFETS สู่ระดับ 19.83% จากเดิมที่ระดับ 19.88% และลดน้ำหนักสกุลเงินยูโร สู่ระดับ 18.21% จากเดิมที่ระดับ 18.45%
เมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังสหรัฐ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2564 ถึงเดือนพ.ค. จีนถือครอง พันธบัตรสหรัฐ ลดลงมาอยู่ที่ 9.8 แสนล้านดอลลาร์ ลดลงเกือบ 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์ จากเดือนเม.ย.และลดลงเกือบ 1 แสนล้านดอลลาร์ หรือลดลงประมาณ 9%จากเดือนพ.ค.2564
ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2553 ที่จีนถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐต่ำกว่าหมุดหมาย 1 ล้านล้านดอลลาร์ ตอนนี้ญี่ปุ่นจึงกลายเป็นประเทศที่ถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมากที่สุด 1.2 ล้านล้านดอลลาร์
การซื้อพันธบัตรลดลงเกิดขึ้นหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อพุ่งเร็วสุดนับตั้งแต่ปี 2524 เมื่ออัตราดอกเบี้ยพันธบัตรเพิ่มขึ้นผลตอบแทนลดลงนั่นหมายความว่า นักลงทุนที่ขายพันบัตรก่อนถึงกำหนดจะประสบภาวะขาดทุน