ตรวจสอบ "เงินประกันรายได้เกษตรกร" งวดที่ 13 ส่วนต่าง ประกันรายได้ข้าว65/66
อัปเดตต่อเนื่อง! ชาวนาตรวจสอบเงินช่วยเหลือเกษตรกร "เงินประกันรายได้เกษตรกร" ธ.ก.ส.เคาะจ่ายส่วนต่าง ประกันรายได้ข้าว65/66 งวดที่ 13
ภายหลังจากที่รัฐบาล ได้อนุมัติโครงการ ประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 หรือ ประกันรายได้ข้าว65/66 จ่ายส่วนต่าง "ประกันราคาข้าว" ลงวันที่ 21 พ.ย.65 จาก ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งผลการจ่ายเงินชดเชยส่วนต่าง ณ วันที่ 4 ม.ค. 2566 ธ.ก.ส. ได้จ่ายเงินส่วนต่างให้เกษตรกรแล้ว ในงวดที่ 1 - 12 สำหรับเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวภายในวันที่ 30 ธ.ค. 2565 จำนวน 2.572 ล้านครัวเรือน "กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" ได้รายงานความคืบหน้า โครงการประกันรายได้เกษตรกร การจ่าย "เงินประกันรายได้เกษตรกร" อย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด กรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวได้มีมติ ในคราวประชุม ครั้งที่ 1/2566 เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2566 เห็นชอบการกำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่าง ประกันรายได้ข้าว65/66 ให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 (งวดที่ 13) ดังนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ข้อ 1. ราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงประจำวันที่ 6 มกราคม 2566 เพื่อใช้ในการชดเชยส่วนต่าง ประกันรายได้ข้าว65/66 ให้แก่เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 (งวดที่ 13) ให้แก่เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 ที่ระบุวันที่ คาดว่าจะเก็บเกี่ยวก่อนวันที่ 31 ธันวาคม 2565 - 6 มกราคม 2566 สำหรับข้าวเปลือกชนิดต่าง ๆ ณ ความชื้นไม่เกิน 15% ดังนี้
- ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 14,022.95 บาท
- ข้าวเปลือกหอมมะลิ นอกพื้นที่ ตันละ 13,510.36 บาท
- ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 11,008.74 บาท
- ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 9,798.11 บาท
- ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,491.98 บาท
ข้อ 2. การชดเชยส่วนต่างระหว่างราคา "ประกันรายได้เกษตรกร" กับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง มีอัตราส่วนต่างที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรใช้ในการจ่ายให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว สำหรับการจ่ายเงิน งวดที่ 13 ดังนี้
- ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 977.05 บาท
- ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 489.64 บาท
- ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ราคาสูงกว่าเป้าหมาย จึงไม่มีการชดเชยส่วนต่างในงวดนี้
- ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 201.89 บาท
- ข้าวเปลือกเหนียว ราคาสูงกว่าเป้าหมาย จึงไม่มีการชดเชยส่วนต่างในงวดนี้
ส่วนการจ่ายเงินชดเชยส่วนต่าง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรงภายใน 3 วันทำการ หรือภายในวันที่ 11 ม.ค. 2566
ตรวจสอบสถานะขั้นตอน-ช่องทางตรวจสอบเงิน ดังนี้
- เข้าไปที่เว็บไซต์ chongkho.inbaac.com (คลิกที่นี่) ตลอด 24 ชั่วโมง
- กรอกเลขที่บัตรประชาชนจำนวน 13 หลัก
- โดยระบบจะแจ้งรายละเอียดของบัญชี จํานวนเงิน และโครงการของเงินช่วยเหลือที่ได้รับ
ตรวจสอบสถานะบนแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile ดังนี้
- หลังจากตรวจสอบในเว็บไซต์ chongkho.inbaac.com เรียบร้อยแล้ว หากมีข้อมูลขึ้นว่าได้รับเงินโอน
- สามารเข้าไปตรวจสอบยอดเงินได้ด้วยตัวเองผ่านแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile จาก ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ซึ่งดูแลเกษตรกรผู้ปลูกข้าวครอบคลุมกว่า 4.68 ล้านคน
- เช็กผลการโอนเงินได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยหากเงินถูกโอนเข้าบัญชีแล้วสามารถรับทราบได้ทันที
ช่องทางดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile ได้บนระบบปฏิบัติการ iOS ผ่าน Appstore และระบบปฏิบัติการ Android ผ่าน Playstore