สภาท่องเที่ยวมั่นใจอุตฯท่องเที่ยวทั่วโลกฟื้นตัวรับจีนเปิดประเทศ
นางจูเลีย ซิมป์สัน ประธานและซีอีโอของสภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก (WTTC) มั่นใจว่า อตฯท่องเที่ยวทั่วโลกจะฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และคาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งในช่วง 10 ปีข้างหน้า โดยได้แรงหนุนส่วนใหญ่จากนักท่องเที่ยวทั้งขาออกของจีน
ช่วงต้นเดือนธ.ค. 2565 จีนตัดสินใจผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ด้วยการผ่อนปรนข้อบังคับด้านการเดินทางและการเข้าใช้สถานที่สาธารณะ จากนั้นจีนได้ตัดสินใจเปิดประเทศทั้งขาเข้าและขาออกในวันที่ 8 ม.ค. โดยยกเลิกมาตรการกักตัวผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศ รวมทั้งออกวีซ่าให้กับชาวจีนที่อาศัยในแผ่นดินใหญ่สำหรับการเดินทางออกนอกประเทศ
"ก่อนที่โรคโควิด-19 จะแพร่ระบาด อุตสาหกรรมการเดินทางและท่องเที่ยวมีการจ้างงานในอัตราส่วน 1 ใน 10 ของการจ้างงานทั่วโลก นี่เป็นภาคส่วนที่สำคัญมาก ซึ่งจะสร้างประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและการจ้างงานจำนวนมาก" นางซิมป์สันให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัว
ผลสำรวจความเห็นของผู้บริโภคกว่า 26,000 คนใน 25 ประเทศซึ่งยูกอฟ (YouGov) ทำการสำรวจให้กับ WTTC ในช่วงปลายเดือนพ.ย. 2565 พบว่า ความต้องการเดินทางไปต่างประเทศอยู่ที่ระดับสูงสุดนับแต่โรคโควิด-19 เริ่มแพร่ระบาด โดย 63% ของผู้ที่ได้รับการสำรวจวางแผนที่จะเดินทางไปพักผ่อนในต่างประเทศในช่วง 12 เดือนข้างหน้า
ด้านองค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO) เปิดเผยในเดือนพ.ย.เช่นกันว่า ภายในสิ้นปี 2565 การขยายตัวด้านการท่องเที่ยวทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะพุ่งแตะ 65% ของระดับในช่วงก่อนโรคโควิด-19 แพร่ระบาด เนื่องจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
"เป็นที่ทราบกันดีว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ข่าวดีก็คือว่า การเดินทางและการท่องเที่ยวจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง และจะขยายตัวในอีก 10 ปีข้างหน้า ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ทั่วโลกเติบโตเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า" นางซิมป์สันกล่าว