ปี 65 พาณิชย์ขึ้นทะเบียนสินค้า GI ไทย 177 สินค้า สร้างมูลค่ากว่า 48,000 ล้านบาท
“สินิตย์” เผยภาพรวมสินค้า GI ปี 65 รวม 177 สินค้า สร้างมูลค่าการตลาดกว่า 48,000 ล้านบาท พร้อมส่งเสริมทำระบบควบคุมคุณภาพสินค้า ขยายช่องทางการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพิ่มศักยภาพแข่งขันทางการค้า สร้างรายได้ให้ท้องถิ่นอย่างยั่งยืน ตั้งเป้าปี 66 เพิ่มอีก 25 สินค้า
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในปี 2565 ที่ผ่านมาได้ขึ้นทะเบียนสินค้าทะเบียนสิ่งบ่งชี้ ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI ไทยจำนวน 25 สินค้า อาทิ ปลากะพงสามน้ำทะเลสาบสงขลา ข้าวหอมกระดังงานราธิวาส ไชโป้วโพธาราม พุทรานมบ้านโพน และผ้าไหมปักธงชัย เป็นต้น ปัจจุบันมีสินค้าท้องถิ่นไทยที่ขึ้นทะเบียน GI ทั้งสิ้น 177 สินค้า สร้างมูลค่าการตลาดกว่า 48,000 ล้านบาท รวมทั้งผลักดันการขึ้นทะเบียน GI ในต่างประเทศ ได้แก่ มะขามหวานเพชรบูรณ์ และลำไยอบแห้งเนื้อสีทองลำพูน ในประเทศเวียดนาม
นอกจากนี้ยังได้จัดทำระบบควบคุมคุณภาพสินค้า GI พร้อมพัฒนาบรรจุภัณฑ์สินค้า GI สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า GI ตอบสนองความต้องการของตลาด ตลอดจนขยายช่องทางจำหน่ายสินค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์ให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้า GI ได้อย่างกว้างขวาง
นายสินิตย์ กล่าวว่า นอกจากนี้การร่วมมือกับมิชลินไกด์ประเทศไทยพาเชฟระดับมิชลิน นำโดยเชฟชาลี กาเดอร์ จากร้าน 100 มหาเศรษฐ์ ร้านอาหารอีสานที่ได้รางวัลบิบ กูร์มองด์ จากมิชลินไกด์ประเทศไทย และเชฟเดวิด ฮาร์ตวิก จากร้าน IGNIV Bangkok ที่ได้รับรางวัลหนึ่งดาวมิชลิน ประจำปี 2565 ลงพื้นที่คัดสรรวัตถุดิบ GI จากแหล่งผลิตในภาคอีสาน 4 สินค้า คือ ข้าวหอมมะลิดินภูเขาไฟบุรีรัมย์ หอมแดงศรีสะเกษ กระเทียมศรีสะเกษ และเนื้อโคขุนโพนยางคำ เพื่อนำมารังสรรค์เป็นเมนูอาหารฟิวชั่นที่ผสมผสานความเป็นไทยและสากลได้อย่างลงตัว และถ่ายทอดอัตลักษณ์สินค้า GI สู่โลกออนไลน์ เพื่อให้เกิดการรับรู้ในวงกว้าง ช่วยยกระดับวัตถุดิบท้องถิ่นไทยสู่สากล อีกทั้งยังสร้างแรงบันดาลใจในการนำวัตถุดิบ GI มาสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ ให้นักท่องเที่ยวและผู้บริโภคได้ลิ้มลอง
สำหรับเป้าหมายการส่งเสริมสินค้า GI ไทยในปี 2566 กระทรวงพาณิชย์พร้อมเดินหน้าผลักดันการขึ้นทะเบียน GI ไทยอีก 20 สินค้า เร่งรัดคำขอขึ้นทะเบียน GI ในต่างประเทศ จัดทำระบบควบคุมคุณภาพสินค้า GI ที่ขึ้นทะเบียนแล้ว 15 สินค้า รวมถึงจัดงานส่งเสริมและขยายช่องทางการตลาดทั้งรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ รวมทั้งสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า GI ไทยตามแนวนโยบาย GI Plus อาทิ การเผยแพร่อัตลักษณ์สินค้า GI ผ่านเมนูอาหารไทย การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้สวยงามทันสมัย การส่งเสริมแหล่งผลิตสินค้า GI ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ฯลฯ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและสร้างการรับรู้ทั้งในและต่างประเทศ ตอบสนองนโยบายของรัฐบาล ในการดึงทรัพยากรที่มีศักยภาพซอฟต์พาวเวอร์มาใช้ในการส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชนอย่างยั่งยืน