กกพ.ลุย พลังงานสีเขียว Green Tariff สอดคล้องตลาดโลก
ทางสำนักคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานในได้จัดงานแถลงข่าวภาพรวมกิจการในปีที่ผ่านและทิศทางต่างๆในอนาคตให้ได้ทราบแล้ว จะเป็นอย่างไรติดตามได้จากรายงานของคุณมุกระวี ดีบุกคำ ค่ะ
นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เปิดเผยถึงแนวทางในระยะต่อไป พร้อมทั้งถอดบทเรียนจากวิกฤตพลังงานให้ฟังว่า ในปีที่ผ่านมาก๊าซธรรมชาติในระบบอ่าวไทยมีกำลังการผลิตลดลง เลยทำให้ต้องเพิ่มก๊าซLNG เข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งจังหวะนั้นเจอสงครามรัสเซีย-ยูเครนทำให้ก๊าซLNG ในตลาดโลกมีราคาแพง พอนับมาบวกแล้วราคาจะค่อนข้างสูง แต่ทางรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจพยายามหาทางแก้ไขปัญหาโดยการหาเชื้อเพลิงอื่นๆมาทดแทน
สำหรับในอนาคตเทรนด์เรื่องของพลังงานสีเขียวกำลังมาแรงและเป็นส่วนหนึ่งที่จะสนับสนุนอุตสาหกรรมให้ไปต่อสู้ในตลาดโลกได้ จึงมีการออกแบบพลังงานสีเขียว หรือเรียกว่า Green Tariff ขึ้นมา เกิดความสะดวกให้ผู้ประกอบการสามารถใช้ได้ ประกอบกับช่วงนี้ได้มีการซื้อพลังงานสีเขียว 5,000 เมกะวัตต์เข้ามา เมื่อจับมาคอมบายกันเป็นเรื่องพลังงานสีเขียวที่จะขายเป็น Green Tariff ซึ่งสอดคล้องกับตลาดโลกที่เขาใช้กัน คือต้องการพลังงานสีเขียวโครงการใหม่ โดยอนาคตก็จะรวมกับกฝผ. ทั้งโครงการใหม่และโครงการอื่นๆเข้ามาด้วย ทางรัฐบาลมองไปข้างหน้าเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมเข้าด้วยกัน
ส่วนในอนาคตเมื่อมี Green Tariff แล้ว ทาง กกพ. ก็จะพยายามปรับบทบาทไม่ว่าจะเรื่องของการติดต่อประสานงานผ่านระบบออนไลน์ ผ่านระบบดิจิทัล แพลตฟอร์มต่างๆเพื่อที่จะได้เป็นประโยชน์ต่อกิจการพลังงานมากขึ้น
และเรื่องค่าไฟ นายคมกริชบอกว่า เนื่องจากสภาวะที่ผิดปกติที่กำลังเผชิญคือ เรื่องปริมาณก๊าซที่ลดลง หรือ ราคาก๊าซในตลาดโลกแพง กกพ.ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อที่จะยืนราคาหรือปรับราคาไปให้สะท้อนต้นทุนที่มีการแบกรับไว้บางส่วน แต่ในอนาคตก็พยายามมองหารูปแบบใหม่ๆไม่ว่าจะเรื่องการมองหาพลังงานหมุนเวียน การปรับระบบการบริหารงานต่างๆค่ะ