กรมการค้าภายใน เผยราคา หมู -ไก่-ไข่ ลดลง

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงภาวะราคาสินค้าและบริการประจำเดือนม.ค.2566ว่า พบว่าราคาสินค้าจำเป็นต่อการครองชีพหลายรายการมีราคาปรับลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ได้แก่ เนื้อหมู ปรับลดลง 2% จากกิโลกรัม(กก.) 172  บาทเหลือ 168 บาทต่อกก. เนื้อไก่ลดลง 3% อาทิ เนื้อน่องลดจากกก.ละ 75บาท เหลือ 73บาทต่อกก.  สะโพก ลดจากกก. 82บาท เหลือ 80บาทต่อกก. ไข่ไก่ลดลง 5% หรือลดลงฟองละ20สตางค์ โดยไข่เบอร์3ราคาอยู่ที่ฟองละ3.90 บาท

นอกจากนี้น้ำมันปาล์มยังมีราคาปรับลดลงมาอยู่ที่ขวดละ47บาท และมีแนวโน้มลดลงอีก จากราคาผลปาล์มที่ชะลอตัวลงอยู่ที่กก.ละ4.90-5.10บาท เบื้องต้นได้ประสานไปยังโรงกลั่น ห้างค้าปลีกและร้านค้าให้ปรับลดราคาจำหน่ายให้สอดคล้องกับราคาผลปาล์มดิบแล้ว

ส่วนปัญหาราคาเนื้อสุกรลดลงจากปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้นมากว่า เร็วๆ นี้กรมฯจะเชิญสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือ เพื่อหามาตรการในการเชื่อมโยงตลาดเนื้อหมูออกจากแหล่งผลิต เพื่อให้เกิดความสมดุลด้านราคา

นายวัฒนศักย์ กล่าวว่า กรณีที่สมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูปเตรียมปรับขึ้นราคาสินค้า 9-12% โดยเฉพาะกลุ่มอาหารแช่แข็งและเครื่องดื่มที่ได้รับผลกระทบอย่างมากจากค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นนั้น ล่าสุด กรมการค้าภายในได้เชิญสมาคมฯดังกล่าวมาหารือและขอความร่วมมือให้ช่วยตรึงราคาจำหน่ายออกไปก่อน โดยสมาคมฯ แจ้งว่ามีภาระต้นทุนเพิ่มสูงขึ้นจากราคาพลังงาน ค่าไฟฟ้า และค่าแรงงาน โดยการปรับขึ้นราคาสินค้าจะเป็นคำตอบสุดท้าย โดยช่วงนี้จะพยายามบริหารจัดการด้านราคาและช่วยตรึงราคาสินค้าไว้ให้นานที่สุด เพราะมองว่าการปรับขึ้นราคาจะกระทบต่อยอดขาย โดยกรมการค้าภายในยึดนโยบายการดูแลทั้ง2 ขา โดยผู้ผลิตสินค้าและผู้บริโภค จะต้องอยู่ได้และจำนวนสินค้าต้องมีเพียงพอกับความต้องการประชาชน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีผู้ลิตอาหารและเครื่องดื่มยืนเสนอขอปรับขึ้นราคามายังกรมการค้าภายในแต่อย่างใด       

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ร้านจำหน่ายอาหารสำเร็จรูป เช่น อาหารตามสั่ง ข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว มีการปรับขึ้นราคาจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากต้นทุนปรับสูงขึ้นจากมาตรการการปรับขึ้นค่าก๊าซหุงต้ม และค่าไฟฟ้าของรัฐบาลนั้น ปัจจุบันกรมฯ มีเครือข่ายร้านจำหน่ายอาหารธงฟ้าราคาประหยัดกว่า 4,000 แห่ง ทั่วประเทศ เป็นทางเลือกในการดูแลและลดภาระค่าครองชีพด้านการบริโภคอาหารให้แก่ประชาชน ล่าสุดกรมฯได้ประสานไปยังซัพพลายเออร์วัตถุดิบในการปรุงอาหารให้เร่งเชื่อมโยงวัตถุดิบราคาถูกไปยังร้านอาหารธงฟ้าทั่วประเทศ เพื่อช่วยบรรเทาภาระต้นทุน

นอกจากนี้กรมยังยังได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือพืช 3 หัว ได้แก่ หอมหัวใหญ่ หอมแดง และกระเทียม  โดยในช่วงปี 64-65 ที่ผ่านมาได้มีการกำกับดูแลการขนย้ายและการนำเข้าพืช 3 หัว เพื่อไม่ให้นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามากดราคาในประเทศ โดยกรมฯร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสกัดจับผู้ลักลอบนำเข้าพืช 3 หัวมาอย่างต่อเนื่องและจริงจัง ซึ่งสามารถจับกุมรวม 15 ราย คิดเป็นปริมาณกว่า 384,000 ตัน หรือมีมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท รวมไปถึงยังสกัดการนำเข้ามะพร้าวอีก 5 ราย ได้ส่งผู้กระทำความผิดทำเนินคดีทางกฎหมายแล้วเช่นกัน

รวมทั้งใช้"อมก๋อย โมเดล" ประสานผู้ประกอบการ เช่น ห้างค้าปลีกค้าส่ง ปั๊มน้ำมันพีที พีทีที บางจาก และเซลส์ และตลาดกลาง เช่น ตลาดไท สี่มุมเมือง ศรีเมือง ล้านเมือง เข้าไปรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกร 23 กลุ่ม ใน 5 จังหวัด โดยปีนี้ตั้งเป้าหมายรับซื้อ 22,800 ตัน และยังมีกิจกรรมการจัดเก็บชะลอขาย 2,850 ตัน เชื่อมโยงออกนอกแหล่งผลิต 15,000 ตัน รวมทั้งซื้อผลผลิตจากเกษตรกรไปจำหน่ายผ่านโมบายพาณิชย์ลดราคา และนำมาแปรรูปเป็นหอมเจียว กระเทียมเจียว และส่งให้ร้านอาหารธงฟ้า ซึ่งช่วยลดต้นทุนให้ร้านธงฟ้าและช่วยเหลือเกษตรกรด้วย