ซีอีโอใหม่ TG มั่นใจพ้นแผนฟื้นฟูก่อนสิ้นปี 67
ซีอีโอการบินไทยคนใหม่มั่นใจ สามารถออกจากแผนฟื้นฟูและเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้เร็วกว่ากำหนด หลังมีกระแสเงินสดเพิ่มอย่างต่อเนื่องกว่า 3 หมื่นล้านบาท พร้อมเร่งจัดหาฝูงบินเพิ่มรองรับการเดินทางที่กลับมาฟื้นตัว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.การบินไทย ชาย เอี่ยมศิริ ระบุ ปัจจุบันการบินไทยอยู่ในจุดที่สามารถมีรายได้จากการดำเนินงานเพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพราะแนวโน้มการเดินทางของผู้โดยสารเริ่มกลับมาฟื้นตัว ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมาการบินไทยได้ทำตามแผนฟื้นฟูในการปรับลดค่าใช้จ่าย และต้นทุน รวมไปถึงขายสินทรัพย์ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ขณะนี้ถือได้ว่าการบินไทยผ่านพ้นวิกฤตและกำลังเข้าสู่ช่วงของการหารายได้อย่างต่อเนื่องเพื่อทำให้องค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน
ปัจจุบันการบินไทยกลับมาเปิดให้บริการเส้นทางบินราว 65% หากเทียบช่วงก่อนเกิดโควิด-19 โดยในปี 2565 มีอัตราบรรทุกผู้โดยสาร หรือ เคบิ้นแฟกเตอร์อยู่ที่ 85% ผลการดำเนินงานในปัจจุบันเริ่มมีกำไรจากการดำเนินงานตั้งแต่เดือน พ.ค.2565 และปัจจุบันมีกระแสเงินสดที่ดีมากอยู่ในระดับ 3 หมื่นล้านบาท
สำหรับความคืบหน้าแผนฟื้นฟูฯ จะตัดสินใจว่าต้องใช้สินเชื่อใหม่หรือไม่ ซึ่งขึ้นอยู่กับผลประกอบการ ซึ่งก่อนหน้านี้ระบุในแผนฯ ว่าอาจจะต้องหาแหล่งเงินทุนวงเงิน 25,000 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือกับสถาบันการเงิน แต่มองว่าเงินสดขณะนี้ยังไม่จำเป็น และมั่นใจว่าจะออกจากแผนฟื้นฟูเร็วกว่าที่กำหนดไว้ในแผนปลายปี 2567 และกลับเข้าไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ในปี 2568 โดยนอกจากขับเคลื่อนการชำระหนี้ตามแผนฟื้นฟูกำหนดแล้ว จะโฟกัสการหารายได้ และจะสร้างผลประโยชน์ตอบแทนจากเงินสดในมือที่มีอยู่ให้มากขึ้น
สำหรับผลประกอบการปี 2565 ประมาณการรายได้อยู่ที่ราว 90,000 ล้านบาท ส่วนในปี 2566 ตั้งเป้ารายได้โต 40% โดยการจัดหาฝูงบินเพิ่มจากปัจจุบันที่มีอยู่ 49 ลำ โดยการเช่าเครื่อง A350 จำนวน 6 ลำ เริ่มทยอยส่งมอบเมษายนนี้ และเจรจาเช่าเครื่องบินลำตัวกว้างเพิ่มอีก 3 ลำภายในปีนี้หรือต้นปีหน้า เพื่อรองรับการเปิดเส้นทางการบินเพิ่มรับการเดินทางที่เพิ่มมากขึ้น