“จุรินทร์”แจ้งเงินประกันรายได้ข้าว 2 ชนิด งวด 18 เข้าบัญชี 15 ก.พ.นี้
“จุรินทร์” แจ้งเช็คเงินประกันรายได้ข้าว งวด 18 รับส่วนต่าง 2 ชนิดข้าว เข้าบัญชีตรง 15 ก.พ.นี้ เผยรับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 5,690 บาท
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงการจ่ายเงินโครงการประกันรายได้ข้าว สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 4 โดยราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 งวดที่ 18 สำหรับเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวระหว่างวันที่ 4-10 ก.พ. 66 ดังนี้
1.ข้าวเปลือกหอมมะลิ สิ้นสุดฤดูเก็บเกี่ยว 2.ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ เกณฑ์กลางตันละ 13,644.35 บาท ชดเชยตันละ 355.65 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 5,690.40 บาท
2.ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี เกณฑ์กลางตันละ 11,135.11 บาท ไม่ต้องชดเชยเนื่องจากราคาเกณฑ์กลางสูงกว่าเป้าหมาย
3.ข้าวเปลือกเจ้า เกณฑ์กลางตันละ 9,993.02 บาท ชดเชยตันละ 6.98 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 209.40 บาท
4.ข้าวเปลือกเหนียว เกณฑ์กลางตันละ 12,550.07 บาท ไม่ต้องชดเชยเนื่องจากราคาเกณฑ์กลางสูงกว่าเป้าหมาย
ทั้งนี้มีเพียงข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ และข้าวเปลือกจ้าวเท่านั้นที่ได้รับเงินส่วนต่างในงวดนี้ ส่วนที่เหลือไม่ต้องชดเชย โดยจะจ่ายเงินให้เกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์งวดที่ 18 ในวันที่ 15 ก.พ. 2566 นี้ มีเกษตรกรได้รับชดเชยตามข้อมูลของกรมส่งเสริมการเกษตรงวดนี้ จำนวน 5,744 ครัวเรือน
นายจุรินทร์ ยังกล่าวถึงประเด็นราคาปุ๋ย ที่มีเกษตรกรให้ความสนใจ ว่า เกษตรกรที่ติดตามช่วงระยะเวลานี้ ราคาปุ๋ยปรับลดลงมา เช่น ยูเรีย ลดลง 25% สูตร 21-0-0 ที่เป็นปุ๋ยปาล์ม ลดลงถึง 30% เฉลี่ยในภาพรวมปุ๋ยทุกตัวลดถึง 13% และยังมีแนวโน้มปรับลดลงได้อีก ถ้าราคาน้ำมันกับแก๊สธรรมชาติลดลง
“แก๊สธรรมชาติเอามาทำปุ๋ย ถ้าแก๊สธรรมชาติแพงปุ๋ยจะราคาแพง และกระทรวงพาณิชย์ยังจัดโครงการช่วยกลุ่มเกษตรกร สหกรณ์เป็นกรณีพิเศษหลายล็อตแล้ว ล่าสุดที่ดำเนินการขณะนี้ จัดโครงการปุ๋ย 2,500,000 กระสอบ เปิดโอกาสให้กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ สามารถจับคู่ซื้อปุ๋ยจากโรงงานโดยตรง กระทรวงจะเป็นผู้ประสานให้ในราคาพิเศษ จะเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ช่วยลดภาระราคาเรื่องปุ๋ยให้เกษตรกรโดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรและสหกรณ์” รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์กล่าว