ปลูก ‘ผักบุ้ง’ รับเงิน 2 หมื่นบาท/ไร่!!
เกษตรกรชาวนาอำเภอหนองฉาง และอำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี รวมกลุ่มกันทำนาผักบุ้งขายเมล็ดพันธุ์ หลังการทำนาปี โดยใช้วิธีเอาแรงกัน ส่วนราคาจะได้ในราคาประกันกิโลกรัมละ 56 บาท หากคิดเป็นไร่จะได้ประมาณ 350 กิโลกรัม เป็นเงินเกือบ 20,000 บาท ต่อไร่
ที่จังหวัดอุทัยธานี นายสิงห์ เรืองเขตร อายุ 62 ปี ประธานกลุ่มทำนาผักบุ้ง อำเภอหนองฉาง และอำเภอทัพทัน กล่าวถึงการทำนาผักบุ้งว่า ได้รวมกลุ่มทำนาผักบุ้งขายเมล็ดพันธุ์ โดยใช้วิธีเอาแรงกันต้องแต่เริ่มเพาะปลูกไปจนถึงเก็บเกี่ยวผลผลิตและสีเป็นเมล็ดพันธุ์ส่งขายโยใช้เล็ดพันธุ์ใบไผ่ และไม่ต้องไปเสียค่าจ้างในการทำนาผักบุ้ง จึงทำให้ประหยัดต้นทุน ปัจจุบันมีสมาชิกในกลุ่มมากกว่าราย และการเพาะปลูกนาผักบุ้งขายเมล็ดพันธุ์ระยะที่ดีที่สุดคือตั้งแต่เดือนกันยายน และตุลาคม ระยะการดูและบำรุงจนได้ผลผลิตของเมล็ดพันธุ์ผักบุ้งในระยะเวลา 120 วัน ซึ่งในช่วงนี้อยู่ในช่วงของปลายๆของฤดูเดก็บเกี่ยวส่งขายเมล็ดพันธุ์ และจะขายได้ในราคาประกันโดยจะขายเป็นกิโลกรัม กิโลกรัมละ 56 – 57 บาท
เมื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตของบักบุ้งแล้ว จะปลูกพืชอย่างอื่น หรือทำนาต่อไปก็จะงามไม่ต้องใส่ปุ๋ยมาก หากเป็นข้าวได้ไร่ละ 1 เกวียน / ตัน ถ้าเป็นข้าวโพดก็จะได้กว่า 1 เกวียน / ตัน ถือว่าเป็นการพักดินในการทำนา เพราะในช่วงของเดือนตุลาคม หากทำนาจะไม่ได้ผลผลิตเพราะอากาศหนาว แต่ถ้าเป็นผักบุ้งจะชอบอากาศหนาวยิ่งหนาวเท่าไรยิ่งดีจะได้ผลผลิตอย่างงดงาม สำหรับรายได้เมื่อเทียบกับพืชชนิดอื่นๆแล้วช่วงแค่ 4 เดือนของการเพาะปลูกผักบุ้ง เกษตรกจะได้ประมาณกิโลกรัมละ 55 – 56 บาท ถือว่าดีกว่าพืชชนิดอื่นๆ และขายเป็นกิโลกรัม และราคาซื้อขายเราทำสัญญากันก่อนเพาะปลูก ขณะที่ต้นทุนถ้าเราไม่ลงมือเองจากทั้งหมดก็อยู่ที่ไร่ละ 7,000 บาท และยิ่งทำโดยการเอาแรงกันก็ประหยัดต้นทุนไปอีกมาก ผลกำไรก็มากขึ้นไปอีก ผลผลิตถ้าทำดีจะอยู่ที่ไร่ละ 350 กิโลกรัม อย่างไม่ได้ก็ต้องถึง 200 กิโลกรัมเป็นอย่างน้อย และหากคิดเป็นกิโลกรัมต่อไร่จะได้ถึงไร่ละ 19,600 บาท หากคิดเป็นตันจะได้ถึงตัน 56,000 ซึ่งเป็นกำไรได้อย่างงดงาม