"กฟผ.-ธอส." ร่วมหนุนสินเชื่อสร้างบ้านประหยัดพลังงาน ตั้งเป้า 3 ปี 5 พันหลัง
"กฟผ.-ธอส." ร่วมส่งเสริมบ้านประหยัดพลังงาน พร้อมปล่อยสินเชื่อ“ โครงการบ้านอยู่เย็นเป็นสุข” ตั้งเป้าสร้างบ้านประหยัดพลังงาน 3 ปี 5 พันหลัง ลดการใช้พลังงานประเทศ 32.5 ล้านหน่วย หรือ 130 ล้านบาท และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน 14,600 ตันต่อปี
นายประเสริฐศักดิ์ เชิงชวโน รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ เป็นผู้แทน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวภายหลังร่วมพิธีลงนามความร่วมมือโครงการยกระดับบ้านประหยัดพลังงานอย่างยั่งยืนเพื่อคนไทย กับ นายวิทยา แสนภักดี รองกรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ว่า กฟผ. ได้ดำเนินโครงการฉลากแสดงระดับประสิทธิภาพพลังงานสำหรับบ้านที่อยู่อาศัย หรือโครงการบ้านเบอร์ 5ตั้งแต่ปี 2560
โดยขับเคลื่อนผ่านเกณฑ์ข้อกำหนดด้านการออกแบบ การเลือกใช้วัสดุการก่อสร้าง และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูง รวมทั้งนวัตกรรมระบบบริหารจัดการพลังงาน สนับสนุนการดำเนินมาตรการกำหนดมาตรฐานการใช้พลังงานในบ้านที่อยู่อาศัย (Residential Energy Code ; REC) ตามแผนอนุรักษ์พลังงานของประเทศ มีแบบบ้านเบอร์ 5 จำนวน 61 แบบ สร้างแล้วเสร็จ 5,400 หลัง
ทั้งนี้ สามารถช่วยลดค่าไฟฟ้าของผู้อาศัยได้ประมาณ 44 ล้านบาทต่อปี ส่งผลให้ประเทศประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ประมาณ 11 ล้านหน่วยต่อปี ประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้แก่ผู้อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับบ้านทั่วไป เทียบเท่าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ประมาณ 5,300 ตันต่อปี กฟผ. มุ่งมั่นยกระดับการดำเนินโครงการดังกล่าว จึงร่วมมือกับ ธอส. สนับสนุนการให้บริการทางการเงิน เพื่อส่งเสริมและผลักดันกลุ่มผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ลงทุนพัฒนาที่อยู่อาศัยประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเลือกซื้อบ้านที่อยู่อาศัยประสิทธิภาพสูงแก่ประชาชนทั่วไป
ด้านนายวิทยา กล่าวว่า ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐสังกัดกระทรวงการคลังที่มีพันธกิจ ทำให้คนไทยมีบ้าน ยินดีที่ได้ร่วมมือกับ กฟผ. ในครั้งนี้ โดยพร้อมเป็นกลไกสำคัญในการให้บริการทางการเงินด้วยผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้านประหยัดพลังงานแก่ผู้ประกอบการที่อยู่อาศัย ประชาชนทั่วไปให้สามารถซื้อหรือก่อสร้างบ้านประหยัดพลังงาน ตามแบบบ้านเบอร์ 5 ที่ผ่านตามข้อกำหนดโครงการบ้านเบอร์ 5 ของกฟผ. ภายใต้โครงการบ้านอยู่เย็นเป็นสุขของธนาคาร
อย่างไรก็ตาม ในปี 2565 มียอดอนุมัติสินเชื่อรวมแล้วกว่า 13,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนการตอบรับของประชาชนต่อที่อยู่อาศัยประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มมากขึ้น และ ธอส. ยังมุ่งมั่นส่งเสริมให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสังคม และบทบาทความรับผิดชอบของธุรกิจที่มีต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้วยการมอบผลิตภัณฑ์ บริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน
ทั้งนี้ กฟผ. และ ธอส. ตั้งเป้าหมายที่จะผลักดันให้เกิดการสร้างบ้านประหยัดพลังงาน ภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ 3 ปี (ปี 2566-2568) จำนวน 5,000 หลัง ซึ่งจะสามารถลดการใช้พลังงานของประเทศได้ประมาณ 32.5 ล้านหน่วยต่อปี หรือ 130 ล้านบาทต่อปี และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ประมาณ 14,600 ตันต่อปี เป็นการสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภาคส่วนต่างๆ ในการลดก๊าซเรือนกระจกตามทิศทางการพัฒนาประเทศ มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างเป็นรูปธรรม