จับตา "เวียดนาม" ส่งออกไปจีน พุ่งหลังจีนเปิดประเทศ
ทูตพาณิชย์ เวียดนาม เผย ส่งออกเวียดนามได้รับอานิสงค์จากจีนเปิดประเทศ ชี้ ระบบโลจิสติกส์ทั่วประเทศและเชื่อมต่อกับประเทศจีน หนุนภาคส่งออก-นำเข้า จับตากระทบส่งออกสินค้าไทย เหตุต้นทุนเสียเปรียบ ด้านรมว.เกษตรฯเวียดนาม เผย ส่งออกก.พ.ยังจีนเพิ่มขึ้น 33 %
ภายหลังการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 และการเปิดประเทศของจีนเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ทำให้คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของจีนจะฟื้นตัวกลับมาและจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโลกทำให้คลายความกังวลสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจในหลายประเทศในยุโรปและสหรัฐที่ชะลอตัวลงจากปัญหาเงินเฟ้อที่สูงขึ้น
ประเทศในอาเซียนก็ได้รับผลดีจากการเปิดประเทศของจีน โดยไทยซึ่งเป็นคู่ค้าสำคัญของจีนก็ได้รับอานิสงค์ทั้งการส่งออกและการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวซึ่งผลสำรวจพบว่า ไทยเป็นจุดหมายแรกการท่องเที่ยวของจีนทำให้ในช่วงต้นปีมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นคาดว่าทั้งปีจะมีนักท่องเที่ยวกว่า 7-8 ล้านคน ขณะที่การส่งออกของไทยไปจีนหลังจากที่ติดลบมาหลายเดือนก็คาดว่าน่าจะพลิกกลับมาเป็นบวกได้อีกครั้งในไตรมาส 2
ไม่เพียงแต่ไทยที่ได้รับประโยชน์จากการเปิดประเทศของจีน คู่แข่งของไทยอย่างประเทศเวียดนามก็ได้ประโยชน์เช่นกัน โดยนางสาวธนียา ฟูเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เปิดเผยว่า หลังจากใช้มาตรการควบคุมโควิด-19 อย่างเข้มงวดเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 3 ปีประเทศจีนก็ได้ผ่อนคลาย และการ เปิดประเทศเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจของเวียดนามในปี2566 และ มีแนวโน้มที่จะสดใสมากขึ้น
"แม้เศรษฐกิจโลกโดยรวมยังดูซบเซา จีนเป็นคู่ค้าสำคัญของเวียดนาม ในสภาวการณ์ที่ความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายกำลังพัฒนาเป็นไป ในทางที่ดีรวมถึงการตั้งใจของทั้งสองฝ่ายในการอำนวยความสะดวกในการส่งเสริมการค้า จะช่วยขับเคลื่อนให้แก่ความสัมพันธ์ ระหว่าง 2 ประเทศมากขึ้น"นางสาวธนียา กล่าว
ในปี2565 การค้าระหว่างเวียดนามและจีนมีมูลค่า 175,500 ล้านดอลลาร์ ด้วยประเทศจีน ประชากรมีจำนวนกว่า 1,410 ล้านคน จีนเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญสำหรับภาคการเกษตรของเวียดนาม โดยบริโภคผักและผลไม้คิด เป็น 53.7 % ของการส่งออกผักและผลไม้ทั้งหมดของเวียดนาม โดยเฉพาะ จีนเป็นผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำรายใหญ่อันดับ 3 ของเวียดนาม รองจากสหรัฐฯ และญี่ปุ่น
การเปิดประเทศจีนอีกครั้งเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการเวียดนามและประเทศจีน ในความร่วมมือที่ขยายตลาดการส่งออกและนำเข้า และส่งเสริมพัฒนาการค้าทวิภาคีการขนส่งสินค้าระหว่างเวียดนามและจีน โดยเวียดนามมีระบบการขนส่งทางถนนที่ครอบคลุมทุกจังหวัดและเมืองสำคัญทั่วประเทศ และเชื่อมต่อกับประเทศจีน ซึ่งช่วยให้การ นำเข้าและส่งออกสินค้าระหว่างเวียดนามกับจีนเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสินค่าส่งออกของไทยในการส่งออกไปยังไป ประเทศจีน เนื่องจากการแข่งขันในต้นทุนการขนส่งกับเวียดนามและราคาสินค้าของเวียดนามไปยังจีน
เว็ปไซต์ https://vietnamnet.vn/ / รายงานว่า นาย เจิ่น ทัน นาม (Tran Thanh Nam) รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบท ระบุว่าการกลับมาเปิดประเทศของจีนอีกครั้ง หลังจากข้อจำกัดในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด19 ทำให้การส่งออกสินค้าเกษตรและประมงของเวียดนามไปยังจีนเติบโต แข็งแกร่งมากขึ้น การที่จีนยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์จากการแพร่ระบาด ของเชื้อควิด-19 ได้ผลักดันการค้าทวิภาคีระหว่างเวียดนามและจีน เติบโตเป็นอย่างมาก โดยในเดือนก.พ.2566 การส่งออกของ เวียดนามไปยังจีนเพิ่มขึ้น 33 % เมื่อเทียบกับเดือนก่อน ด่านชายแดนหม่องก๋าย (Mong Cai) - Dongxing ได้เปิดดำเนินการอีก ครั้งหลังจากมีข่าว ทำให้ผู้ประกอบการเวียดนามจำนวนมากไปที่ประตูชายแดน เพื่อหาคู่ค้าชาวจีน ด่านชายแดน Mong Cai - Dongxing มีความสำคัญในการค้าทวิภาคีระหว่างเวียดนามกับจีน เนื่องจากเป็นการเชื่อมโยงการค้าระหว่างจังหวัดกว๋างนิญกับ จังหวัดกว่างซีของจีน โดยจีนเป็นผู้นำเข้าอาหารทะเลรายใหญ่อันดับ 3 ของเวียดนาม นำเข้า 75 % ของการบริโภคอาหาร ทะเลต่อปี
สำหรับสินค้าเกษตรแปรรูป ผู้ส่งออกเวียดนามที่ต้องการส่งออกไปยังตลาดจีนจะต้องส่งเอกสารให้กับทั้งหน่วยงานของ เวียดนาม และให้กับหน่วยงานของจีน อย่างไรก็ตาม ผู้ส่งออกบางรายได้ข้ามขั้นตอนโดยส่งเอกสารของตนไปยังหน่วยงานของจีน ซึ่ง ทำให้หน่วยงานของเวียดนามไม่สามารถตรวจสอบเอกสารได้รัฐมนตรีระบุว่า ขอให้ผู้ส่งออกปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ยังเสนอแนะให้จัดตั้งทีมงานที่มีหน้าที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับตลาดจีนแก่ผู้ผลิตสินค้าเกษตร
กว่างซีเป็นหนึ่งในตลาดนำเข้าสินค้าเกษตรและประมงรายใหญ่ของ เวียดนาม ซึ่งคิดเป็น 47.5% ของการนำเข้าทั้งหมดของจีนจากเวียดนาม ใน 23 ปีผ่านมา เวียดนามยังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีน
จากข้อมูลดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า ภาคการส่งออกของเวียดนามไปจีนเริ่มกลับมาได้ดีและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากข้อได้เปรียบด้านการขนส่ง อีกทั้งยังมีความร่วมมือแบบทวิภาค ก็ยิ่งเป็นแรงเสริมให้การส่งออกเวียดนามเติบโตมากขึ้น ซึ่งไทยในฐานะเป็นผู้ส่งออกและจีนถือเป็นคู่ค้าสำคัญของไทย คงต้องจับตาการส่งออกของเวียดนามทั้งปี 66 จะขยายตัวและเติบโตได้มากแค่ไหน