ส่องผลงาน 4 ปี ”จุรินทร์ ”บนเก้าอี้ รมว.พาณิชย์
เปิดผลงาน 4 ปี “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” รมว.พาณิชย์ เดินหน้าประกันรายได้เกษตรกร รุกตลาดการค้า เปิดเวทีเจรจาเอฟทีเอ ผลักดันการส่งออก ลดค่าครองชีพประชาชน
หลังเลือกตั้งปี 2562 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี พรรคประชาธิปัตย์ ได้เข้าเป็นพรรคร่วมรัฐบาลภายใต้การนำของหัวหน้าพรรคชื่อ"จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ " และได้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
โดยนายจุรินทร์ เข้ากระทรวงพาณิชย์วันแรก คือ 18 ก.ค.62 พร้อมประกาศนโยบายเร่งด่วน 4 เรื่องสำคัญคือ การทำโครงการประกันรายได้เกษตรกร เร่งผลักดันการส่งออก ควบคุมราคาสินค้าและบริการ การเจรจาการค้าระหว่างประเทศที่ยังค้างท่อ สานต่อการเจรจาที่ริเริ่มไปแล้วให้จบโดยเร็ว เช่น การเจรจาจัดทำความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) การเจรจาความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ไทย-สหภาพยุโรป (อียู)
วันที่ 23 มี.ค.นี้จะเป็นวันสุดท้ายที่รัฐบาลชุดนี้หมดวาระ ซึ่งตลอด 4 ปีที่”จุรินทร์”นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มา 4 ปีมีผลงานสำคัญๆที่เห็น คงหนีไม่พ้น คือ โครงการประกันรายได้เกษตร ในพืช 5 ชนิด ช่วยเกษตรกรได้ 8.61 ล้านครัวเรือน แยกเป็นข้าว 4.68 ล้านครัวเรือน ยางพารา 1.88 ล้านครัวเรือน มันสำปะหลัง 0.76 ล้านครัวเรือนปาล์มน้ำมัน 0.38 ล้านครัวเรือน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 0.45 ล้านครัวเรือน
การผลักดันราคาผลไม้ ชาวสวนได้ 1.04 ล้านครัวเรือน โดย ปี 65 ไทยส่งออกผลไม้มูลค่า 7,626.68 ล้านดอลลาร์ขยายตัว 5.29% นอกจากนี้ยังมีมาตรการเสริม อาทิ กระจายผลไม้ออกนอกแหล่งผลิต จัดการเจรจา “จับคู่ธุรกิจเจรจาออนไลน์ขายผลไม้”ทำ OBM หรือ Online Business Matching รายสัปดาห์ต่อเนื่อง จัดThai Fruits Golden Months ในจีนต่อเนื่อง
ด้านการส่งออก ซึ่งถือเป็นภารกิจสำคัญในการผลักดันการส่งออกของไทย “นายจุรินทร์”ได้ ตั้ง กรอ.พาณิชย์ โดยรัฐหนุนเอกชนนำ นำกระทรวงพาณิชย์มีนโยบายดึงเอกชนเป็นทัพหน้า ภาครัฐเสริมทัพ บุกตลาดทำงานร่วมกันและขึ้นทะเบียนปัญหา เพื่อติดตามประสานงานแก้ไขอย่างต่อเนื่องและทันท่วงที ผลักดันการส่งออกแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้าต่างๆพร้อมกันนี้ยังตั้งวอร์รูม ภายใต้ กรอ.พาณิชย์ เพื่อท้ำงานเชิงรุกในการรองรับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวในปี2566
รวมทั้งปรับเปลี่ยนบทบาทหน้าที่ของทูตพาณิชย์เป็นเซลล์แมนประเทศ พาณิชย์จังหวัดเป็นเซลล์แมนจังหวัด เพื่อขยายการค้าไทยส่งเสริมการขายสินค้าผลักการส่งออกและเพิ่มศักยภาพการแข่งขันทางการค้าทำหน้าที่เชื่อมโยงแลกเปลี่ยนสินค้า
ขณะที่การเจรจาความตกลงทางการค้าเสรี หรือเอฟทีเอ (FTA) ที่ค้างท่อมาหลายปีก็เดินหน้าเต็มที่และปิดดีลได้ในยุค”จุรินทร์”ไม่ว่าจะเป็นความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคหรือ RCEP ได้หลังจากมีความพยายามมานานถึง 7 ปีก็ได้มีการลงนามและให้สัตยาบันของประเทศสมาชิก 15 ประเทศ ซึ่ง RCEP เป็นเอฟทีเอที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
นอกจากนี้ยังรื้อฟื้นการเจรจาเอฟทีเอไทย-อียู ที่ค้างมานานตั้งแต่ปี 2556 ให้สามารถนับหนึ่งการเจรจาเอฟทีเอไทย-อียูได้ โดยตั้งเป้าจัดทำเอฟทีเอให้สำเร็จในในปี 2568 รวมทั้งเร่งเปิดเจรจาเอฟทีเอใหม่ ฉบับ กับ EU EFTA UK สหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย อาเซียน – แคนาดา
พร้อมกันนี้ก็เร่งผลักดันความคืบหน้า FTA APEC ในช่วงที่นายจุรินทร์ เป็นประธานประชุมรัฐมนตรีการค้า APEC ตั้งเป้าเจรจาให้ FTA APEC สำเร็จในปี 2040 เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าในอนาคต 200 - 400% และยังเดินหน้าจัดทำ FTA ระหว่างไทยกับ GCC ที่มี 6 ประเทศ ประกอบด้วย (ซาอุดีอาระเบีย บาห์เรนโอมาน ยูเออี กาตาร์และคูเวต) โดยซาอุดีอาระเบียจะช่วยประสานงานและผลักดันร่วมกับประเทศไทยต่อไป เพื่อให้เกิด FTA ไทย-GCC ต่อไปได้ในอนาคต เริ่มต้น FTA ระหว่างไทยกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(UAE)หรือความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจไทย –UAE (CEPA)
นายจุรินทร์ยังผลักดันการทำมินิเอฟทีเอ เพื่อสร้างแต้มต่อทางการค้ากับเมือง และมณทล ที่มีเศรษฐกิจขนาดใหม่ เพื่อลดอุปสรรคทางการค้า โดยได้มีการลงนามเอ็มโอยูไปแล้วถึง 7 ฉบับ ประกอบด้วยไห่หนาน (จีน) โคฟุ (ญี่ปุ่น) กานชู (จีน)เตลังคานา (อินเดีย) และคยองกี (เกาหลีใต้) และเซินเจิ้น (จีน)และอยู่ระหว่างการเจรจา (5 ฉบับ) - MOU กับ กรณาฏกะ/ มหาราษฏระ/ เกรละ/อัสสัม/ รัฐคุชราต (อินเดีย) เร่งผลักดันต่อไป อีก 3 ฉบับ คือเมืองหรือเขตเศรษฐกิจส าคัญของสหราชอาณาจักร เมืองการาจี ประเทศปากีสถาน ประเทศสมาชิกอ่าวอาหรับ (GCC)
ส่วนผลงานในด้านการลดค่าครองชีพของประชาชนนั้น ได้จัดทำโครงการพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน 23 Lot ช่วยประชาชน ดำเนินการแล้ว รวม 23 ครั้ง เริ่มตั้งแต่ 16 เม.ย. 2563 ถึง 28 ก.พ. 2566 โดยได้กระทรวงร่วมมือกับผู้ผลิต-ผู้จำหน่ายสินค้า อุปโภคบริโภค ห้างสรรพสินค้า ห้างค้าส่งค้าปลีกรายใหญ่ห้างท้องถิ่น โรงสี โกดัง ร้านค้าชุมชนทั่วประเทศ ร้านอาหาร ด้านสินค้าและด้านขนส่ง สถานีบริการน้ำมัน ลดภาระค่าครองชีพกว่า 16,493 ล้านบาทและโครงการรถโมบายพาณิชย์ ลดราคา! ช่วยประชาชน เป็นต้น
ถือได้ว่านายจุรินทร์มีผลงานไม่น้อย แม้ว่าบางเรื่องจะเป็นงานตามภารกิจของกระทรวงพาณิชย์ เช่น การเจรจาการค้า ที่รัฐมนตรีไม่ว่าใครก็ตามที่มานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ต้องทำและสานต่อก็ตาม แต่ก็ถือได้ว่านายจุรินทร์มีส่วนช่วยในการเร่งผลักดันให้เกิดผลสำเร็จ และถือได้ว่า เป็นรัฐมนตรีในครม.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มีผลงานโดดเด่นอีก 1 คน