สภาอุตฯท่องเที่ยวเชียงใหม่ ลั่นสุขภาพต้องมาก่อนเงินในกระเป๋า พิษ PM 2.5
พิษ PM 2.5 เชียงใหม่ออกประกาศ ขอความร่วมมือหน่วยงานWork from homeในส่วนที่ไม่กระทบด้านบริการประชาชน ขณะที่นายกสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชียงใหม่เผย สถานการณ์ฝุ่นพิษหนักหน่วงกระทบการท่องเที่ยว แต่สุขภาพของชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวต้องมาเป็นอันดับแรก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางจังหวัดเชียงใหม่ได้ออกประกาศ เรื่อง มาตราการป้องกันและลดผลกระทบกรณีฝุ่นละอองเกินค่ามาตราฐานต่อเนื่อง โดยขอให้หน่วยงานภาครัฐทุกแห่งจัดระบบการทำงานที่บ้าน หรือ Work from Home ในส่วนภารกิจที่ไม่ส่งผลกระทบต่อการบริการประชาชน หากจัดประชุมให้พิจารณาประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ส่วนสถานบริการ สถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการ ร้านอาหาร
ขอให้พิจารณาให้บริการห้องปรับอากาศเป็นอันดับแรก เพื่อลดผลกระทบจากหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) เนื่องด้วยจังหวัดเชียงใหม่ มีสถานการณ์หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ที่ผ่านมามีค่าเกินค่ามาตรฐาน (อยู่ระหว่าง 112-398 มคก/ลบ.ม) และมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน จึงได้ออกประกาศฉบับดังกล่าว เพื่อเป็นการป้องกันและลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
อีกทั้งขอความร่วมมือให้บริษัท ห้างร้าน สถานประกอบการ พิจารณาอนุญาตให้พนักงานทำงานที่บ้าน หรือทำงานผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในส่วนที่ไม่กระทบต่อกิจการของบริษัทห้างร้าน หรือสถานประกอบการ เพื่อลดการออกนอกเคหสถาน สำหรับกลุ่มเปราะบาง อาทิ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว ขอให้ลดหรืองดการออกนอกบ้าน พร้อมทั้งให้หน่วยงานของรัฐ พิจารณาเปิดบริการห้องปลอดฝุ่นให้แก่ประชาชน
นอกจากนี้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่ไม่มีห้องปลอดฝุ่น ให้พิจารณาหยุดการเรียนการสอน และสวนสาธารณะในความดูแลของหน่วยงานภาครัฐ ให้พิจารณาปิดพื้นที่ทำกิจกรรมกลางแจ้งอย่างไรก็ตามให้ดำเนินการเป็นเวลา 1 วัน คือในวันศุกร์ที่ 7 เมษายน 2566 หากสถานการณ์ฝุ่นละออง ยังไม่คลี่คลายจะได้ออกประกาศให้ประชาชนทราบโดยเร็วต่อไป
ด้าน นายพัลลภ แซ่จิว นายกสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ณ เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดถึงผลกระทบด้านการท่องเที่ยว ต้องคำนึงถึงสุขภาพของประชาชนเป็นหลัก เพราะสถานการณ์หมอกควันและฝุ่นPM2.5 ของจังหวัดเชียงใหม่ถือว่าวิกฤตเป็นอย่างมาก นอกจากสุขภาพของคนในเชียงใหม่แล้ว ต้องคำนึงถึงสุขภาพและความพอใจของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาเที่ยวด้วย
หากจะเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวในขณะนี้คงไม่เหมาะสม เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เห็นภาพของมลภาวะมากกว่าเห็นความสวยงาม หากมีนักท่องเที่ยวคนใด หรือคนที่มีผู้ติดตามในสังคมออนไลน์จำนวนมาก นำเรื่องราวหรือภาพเมืองเชียงใหม่ที่มีแต่หมอกควัน มีแต่ฝุ่นพิษ มันจะทำให้เกิดเป็นภาพและผลเสียในระยะยาวได้ ดังนั้นการบอกตรง ๆว่าเชียงใหม่ตอนนี้กำลังเผชิญกับอะไร และต้องเร่งแก้ไขเยียวยา จึงเป็นสิ่งสำคัญ หากบอกตามความจริงแล้วนักท่องเที่ยวคนใดจะยังมาเที่ยวในช่วงที่มีอากาศเป็นพิษ ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละบุคคล
ดังนั้นสิ่งสำคัญในตอนนี้คือ เรื่องของสุขภาพ มากกว่า คุยถึงเรื่องของเงิน หรือรายได้ ตนขอเปรียบเทียบวิกฤติในช่วงนี้เหมือนกับน้ำท่วม คงไม่มีใครอยากเชิญนักท่องเที่ยวมาเที่ยวตอนที่มีน้ำท่วม ซึ่งเราก็เห็นกันอยู่ทุกวันว่า สถานการณ์หมอกควันและฝุ่นพิษ มันหนักหน่วงและน่ากลัวขนาดไหน ซึ่งตนก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าใน 1-2 วันนี้จะมีฝนกหรือ ลม ช่วยพัดหมอกควันไป หรือช่วยบรรเทาสถานการณ์ลงได้บ้าง
ขณะที่ศูนย์บัญชาการฯ เชียงใหม่ ได้รายงานจุดความร้อน (Hotspot) ประจำวันที่ 7 เมษายน 2566 รอบเช้า พบจุดความร้อน จำนวน 261 จุด เป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ แยกเป็นอำเภอได้แก่แม่แจ่ม 23 จุด, แม่ออน 21 จุด, สะเมิง 10 จุด, แม่วาง 6 จุด, เวียงแหง 5 จุด, แม่แตง 4 จุด, อมก๋อย 3 จุด, แม่ริม 3 จุด, ดอยสะเก็ด 2 จุด, ฮอด 2 จุด, เชียงดาว 2 จุด, สันทราย 1 จุด, ดอยหล่อ 1 จุด, แม่อาย 1 จุด
สำหรับในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ แยกเป็นอำเภอได้แก่ พร้าว 54 จุด, เชียงดาว 38 จุด, เวียงแหง 19 จุด, แม่แตง 14 จุด, ฝาง 9 จุด, สะเมิง 8 จุด, ไชยปราการ 7 จุด, แม่แจ่ม 6 จุด, ดอยสะเก็ด 5 จุด, ฮอด 4 จุด, หางดง 2 จุด, แม่ริม 2 จุด, จอมทอง 2 จุด, แม่วาง 2 จุด, อมก๋อย 1 จุด, แม่อาย 1 จุด, สันกำแพง 1 จุด และในเขต สปก. มีแม่แจ่ม 1 จุด, กัลยาณิวัฒนา 1 จุด ซึ่งจุดความร้อนสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงปัจจุบัน ทั้งหมดจำนวน 9,408 จุด