ปิดฉาก 129 ปี! บางจากฯทุ่ม 5.5 หมื่นล้าน ‘ซื้อ’ เอสโซ่
ประชุมผู้ถือหุ้น “บางจาก” กว่า 99.9% อนุมัติซื้อ “เอสโซ่” 5.5 หมื่นล้าน “ชัยวัฒน์” มั่นใจคืนทุนไม่เกิน 3-4 ปี พร้อมรีแบรนด์ปั๊มรวม 2.1 สถานี ได้ตั้งแต่ไตรมาส2 ภายหลังการซื้อขายสำเร็จ มองผู้ใช้บริการในไทยเบอร์ 1-3 มีสถานีบริการสัดส่วนเท่ากัน
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่ม บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลังการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ว่า ที่ประชุมได้อนุมัติการเข้าซื้อหุ้นสามัญและการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ที่เหลือทั้งหมดใน บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทฯ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของบริษัทฯ ในฐานะผู้ประกอบธุรกิจโรงกลั่นและสถานีบริการน้ำมันชั้นนำของประเทศไทย
ทั้งนี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ 99.9% มีมติอนุมัติการเข้าซื้อหุ้นสามัญและการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ที่เหลือทั้งหมดใน เอสโซ่ ประกอบด้วย
1.การเข้าซื้อหุ้นสามัญโดยตรงจำนวน 2,283,750,000 หุ้น ในเอสโซ่ ประมาณ 65.99% ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมดของเอสโซ่ ณ วันที่ 30 ก.ย.2565 จากผู้ขาย ExxonMobil Asia Holdings Pte.Ltd. โดยบริษัทฯ ได้ทำสัญญาซื้อขายหุ้นกับผู้ขายเมื่อวันที่ 11 ม.ค.2566
2.การทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญที่เหลือทั้งหมดในเอสโซ่ เป็นจำนวนไม่เกิน 1,177,108,000 หุ้น (ประมาณ 34.01%) ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมดของเอสโซ่ ณ วันที่ 30 ก.ย.2565 ภายหลังจากที่ธุรกรรมการซื้อขายหุ้นเสร็จสิ้น ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทจ.12/2554 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ (ประกาศการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ) เพื่อได้มาซึ่งหุ้นที่เหลือทั้งหมดในเอสโซ่ในราคาเดียวกันกับราคาซื้อหุ้นเอสโซในธุรกรรมการซื้อขายหุ้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าเงื่อนไขบังคับก่อนภายใต้สัญญาซื้อขายหุ้นจะเสร็จสมบูรณ์และสามารถทำการซื้อขายหุ้นที่ซื้อขายได้ภายในระยะเวลา 12 เดือนหลังจากวันที่ของสัญญาซื้อขายหุ้น โดยเมื่อเงื่อนไขบังคับก่อนสำเร็จเสร็จสิ้น
++ ปั๊มน้ำมันเบอร์1-3แข่งเดือด
สำหรับการซื้อเอสโซ่ครั้งนี้ ถือเป็นกลยุทธ์ระยะยาวทำให้บริษัทฯ ไม่ต้องขยายโรงกลั่นแห่งที่ 2 จากเดิมโรงกลั่นบางจากมี 1 แห่งที่สุขุมวิท กำลังการผลิต 174,000 ล้านบาร์เรล และโรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ขนาด 174,000 ล้านบาทบาร์เรล รวมเป็น 294,000 ล้านบาร์เรล
ส่วนสถานีบริการน้ำมันเอสโซ่ 802 สาขา รวมกับบางจากอีก 1,343 สาขา รวมเป็น 2,145 สาขา ถือเป็นผู้นำสถานีบริการน้ำมันที่ขณะนี้จะเบอร์ 1 เบอร์ 2 หรือเบอร์ 3 ก็มีจำนวนระดับนี้ ส่วนระบบท่อ บริษัทฯ ได้สิทธิ์เข้าไปใช้ด้วยเช่นกัน
“ตอนนี้โรงกลั่นบางจากกลั่นที่ระดับ 1.2 แสนล้านบาร์เรล ถือว่ายังไม่พอเข้าเป้าที่ 1.43 ล้านบาร์เรล ซึ่งโรงกลั่นเอสโซ่จะช่วยให้ดีขึ้น ส่วนการเปลี่ยนโลโก้สถานีบริการถ้าผ่านจะดำเนินซื้อขายที่คาดว่าจะสามารถจ่ายเงินได้ช่วงปลายปีนี้ ก็จะทยอยเปลี่ยนเป็นโลโก้บางจากทันที คาดว่าช่วง 3-6 เดือนจะทำให้เห็นภาพ ส่วนคุณภาพของน้ำมันจะเป็นพรีเมียมแก๊สโซฮอล์97 ถือว่าดีที่สุดในตลาด เพื่อตอบโจทย์พรีเมียมแก๊สโซฮอล์”
รายงานข่าวระบุว่า ที่ปรึกษาทางการเงินของบางจากได้สรุปตลาดค้าปลีกน้ำมันหลังบางจากซื้อเอสโซ่ โดยตลาดน้ำมันมีปั๊มรวม 27,993 แห่ง แบ่งเป็นปั๊มที่ไม่มีแบรนด์มีสัดส่วน 70.9% รองลงมาเป็น OR 8.5% , PT 8.0% , บางจาก และ ESSO 7.7% (บางจาก 4.8% , ESSO 2.9%) , Shell 2.5% และ Caltex 1.6%