Daily Strategy : Selective buy - 19 เมษายน 2566
ตลาดหุ้นวานนี้ SET Index ลดลง 7 จุด ปิดที่ระดับ 1,594 จุด จากแรงขายหุ้นกลุ่มน้ำมัน โรงกลั่น และ ปิโตรเคมี ตามทิศทางของราคาน้ำมันดิบและค่าการกลั่นที่ลดลง
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้
ประเมิน SET แกว่งตัว 1,585 - 1,605 จุด เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่ประกอบกับความกังวล FED ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% เป็น 5.25% ในการประชุม 2 -3 พ.ค.ยังคงกดดัน Fund flow ให้เป็นลบและส่งผลให้ภาวะตลาดผันผวนสูง อย่างไรก็ตามแรงซื้อหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวรวมถึงการซื้อดักงบ 1Q23 ที่กำลังจะทยอยประกาศจะช่วยหนุนให้ดัชนีสลับรีบาวด์ขึ้นได้
กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy
BBL KTB KBANK SCB ADVANC INTUCH BCH WHAUP คาดการณ์งบ 1Q23F เติบโตขึ้น
SAWAD MTC KTC ASK อานิสงส์เงินฟ้อไทยชะลอตัวลง
หุ้นแนะนำวันนี้
CPALL (ปิด 63 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 72.75 บาท) คาดกำไรสุทธิ 1Q23 เพิ่มขึ้นทั้ง qoq และ yoy จาก SSSG ที่เพิ่ม โดยเฉพาะสาขาในหัวเมืองท่องเที่ยว แนวโน้ม 2Q23 โตต่อจากการจับจ่ายที่เพิ่มขึ้นในช่วงสงกรานต์และเลือกตั้ง
GPSC (ปิด 67.25 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 74 บาท) มีข่าวดี Avaada Energy ซึ่ง GPSC ถือหุ้น 42.93% ชนะประมูลงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ 560MW ในประเทศอินเดียฯ คาดเพิ่ม MW Growth ให้กับ GPSC ได้ประมาณ 4-5%
บทวิเคราะห์วันนี้
TISCO (ปิด 101.5 ปรับลงเป็นถือ/เป้าใหม่ 109 เดิม 110 บาท)
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+/-) TISCO แจ้งงบ 1Q23 มีกำไรตามคาด ส่วนวันนี้ติดตามงบของ TTB: TISCO มีกำไรสุทธิ 1Q23 ที่ 1,793 ล้านบาท ทรงตัว qoq และ yoy และ in line กับที่เราคาดไว้ ส่วน NPL เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 2.13% จาก 2.09% ณ สิ้น 4Q22 ส่วน TTB ประกาศงบวันนี้คาดมีกำไรสุทธิ 4 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 4.9%qoq และ 26.3%yoy
(+) จีนประกาศ GDP 1Q23 ขยายตัว 4.5% สูงสุดในรอบ 4 ไตรมาส : เพิ่มขึ้นจาก 4Q22 ที่ขยายตัว 2.9% และมากกว่าที่ Consensus คาดไว้ที่ 4% ส่วนใหญ่เป็นการฟื้นตัวของการบริโภคและการจับจ่ายใช้สอยในประเทศ ส่วนภาคการผลิตภาคอุตสาหกรรมยังฟื้นตัวช้า ทำให้การเติบโตของ ศก. จีนมีผลกับประเทศคู่ค้าและ ศก.โลกจำกัด
(+) ประธานเฟดแอตแลนตาคาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง จากนั้นจะหยุดขึ้นดอกเบี้ย: เมื่อคืนนี้นายราฟาเอล บอสติก ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา ออกมาให้ความเห็นโดยระบุว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีกเพียงครั้งเดียวจากนั้นจะหยุดขึ้นเพื่อรอประเมินผลต่อ ศก. จากการดำเนินนโยบายที่เข้มงวดดังกล่าว ซึ่งสอดคล้องกับคาดการณ์ของตลาดที่คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งสุดท้ายในการประชุมที่จะมีขึ้นในวันที่ 2-3 พ.ค. นี้