ส่องคืบหน้าคดีอคส.ฟ้องทุจริตแพ่ง-อาญา จำนำสินค้าเกษตร-ถุงมือยางแสนล้าน
อคส.เร่งสางคดีอาญา-แพ่ง ทุจริตโครงการรับจำนำสินค้าเกษตร ทั้งข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 1,376 คดี ความเสียหายรวมถึง 1.11 ล้านล้านบาท ขณะที่คดีถุงมือยางแสนล้าน เดินหน้าฟ้องแพ่งและอาญา “เกรียงศักดิ์”โอดไม่รู้อคส.จะพ้นวิบากกรรมนี้เมื่อไร
ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาองค์การคลังสินค้าหรือ อคส.มีการทุจริตคอร์รัปชั่นในหลายโครงการ บางโครงการมีการตัดสินความผิดกับผู้ที่กระทำความผิดและผู้ที่เกี่ยวข้องไปหลายราย โดยเฉพาะการทุจริตในโครงการรับจำนำสินค้าเกษตรทั้งข้าวเปลือก มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และอื่นๆ เฉพาะในส่วนที่อคส.รับผิดชอบตั้งแต่ปี 2524 ล่าสุด อคส.อยู่ในระหว่างการเดินหน้าฟ้องแพ่ง และอาญาในคดีทุจริตจัดซื้อถุงมือยาง มูลค่า 112,500 ล้านบาท
การสะสางคดีทุจริต และการปราบปรามการทุจริต ในยุคของ”เกรียงศักดิ์”ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการ องค์การคลังสินค้า (อคส.) ไล่เลียงคดีต่างๆเริ่มตั้งแต่ โครงการรับจำนำสินค้าเกษตร ตั้งแต่ปี 24 เฉพาะที่ดำเนินการโดยอคส. มี 37 โครงการ ซึ่งอคส.ได้ฟ้องร้องดำเนินคดี ทั้งแพ่ง และอาญา ประมาณ 1,400 คดี ความเสียหาย 526,048 ล้านบาท หากรวมผลขาดทุนจากการขายสินค้าเกษตรในโครงการจำนำอีก 584,337 ล้านบาทแล้ว อคส.มีความเสียหายสูงถึง 1.11 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้ เป็นความเสียหายจากโครงการปี 51 และปี 54-57 รวม 9 โครงการ รวม 1.05 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น ผลขาดทุนที่เกิดขึ้นแล้ว 522,085 ล้านบาท และอยู่ระหว่างฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายอีก 524,394 ล้าน
สำหรับคดีฟ้องร้องประมาณ 1,400 คดีนั้น แยกเป็นคดีทุจริตจำนำข้าวปี 51-57 รวม 1,179 คดี ความเสียหาย 503,809 ล้านบาท อคส.ชนะคดีแพ่ง 37 คดี เงินชดเชย 2,345 ล้านบาท, คดีทุจริตมันสำปะหลังปี 51-57 รวม 172 คดี ความเสียหาย 20,585 ล้านบาท อคส.ชนะ 85 คดี ชดเชย 6,060 ล้านบาท, คดีทุจริตข้าวโพด ปี 51-57 รวม 5 คดี ความเสียหายกว่า 1,449 ล้านบาท อคส.ชนะ 3 คดี และทุจริตจำนำสินค้าเกษตรอื่นๆ ตั้งแต่ปี 24 อีก 20 คดี ความเสียหายกว่า 204 ล้านบาท
ส่วนการดำเนินคดีโครงการรับจำนำข้าว 1,179 คดี ทุนทรัพย์ความเสียหาย 503,809 ล้านบาท แบ่งเป็นคดีปกครอง(แพ่ง) จำนวน 280 คดี ทุนทรัพย์ความเสียหาย 385,692 ล้านบาท และคดีอาญา จำนวน 899 คดี ทุนทรัพย์ความเสียหาย 118,117 ล้านบาท ซึ่งศาลพิพากษาแล้ว 61 คดี เป็น อคส. ชนะจำนวน 39 คดี ทุนทรัพย์ความเสียหาย 2,517 ล้านบาท และ อคส. แพ้จำนวน 22 คดี ทุนทรัพย์ความเสียหาย 277 ล้านบาท ในจำนวนนี้มี 2 คดี ที่เพิ่งพิพากษาในเดือนเม.ย. และ อคส. ชนะทั้ง 2 คดี อย่างไรก็ตาม มีเพียง 8 คดีที่ถึงที่สุดแล้ว และ อคส. ชนะทั้ง 8 คดี ส่วนที่เหลือยังอยู่ในกระบวนการพิจารณาในชั้นศาลแทบทั้งสิ้น
“โครงการรับจำนำแทบทุกโครงการ ล้วนเกิดทุจริตและการเอารัดเอาเปรียบ แสวงหาผลประโยชน์โดยคนกลุ่มเล็กๆ กลุ่มเดียว แต่สร้างความเสียหายและสร้างภาระให้คนรุ่นต่อไปมากมาย โดยเฉพาะ อคส. ที่ไม่รู้ชะตากรรมตัวเองว่าจะพ้นวิบากกรรมนี้เมื่อไหร่”นายเกรียงศักดิ์ กล่าว
ขณะที่ความคืบหน้าเรื่องการทุจริตถุงมือยางเทียม มูลค่า 112,500 ล้านบาท ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช. ) ได้มีการชี้มูลความผิด 22 รายแล้วนั้น อคส.ได้ทำหนังสือไปยังป.ป.ช.เพื่อให้ได้สำนวนการชี้มูลความผิด และจะนำมาดำเนินการฟ้องร้องทางแพ่ง และฟ้องอาญาฟอกเงิน ให้ผู้กระทำผิดชดใช้ความเสียหายให้กับอคส. โดย มี 3 แนวทางในการดำเนินการคือ ได้แก่ 1.ฟ้องแพ่ง (ฟ้องความรับผิดทางละเมิด) เฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ถูกชี้มูลคามผิด ซึ่งขณะนี้อยู่ในชั้นตรวจสอบของกระทรวงการคลัง หลังจากที่คณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางละเมิด ที่อคส.ได้ตั้งขึ้น เพื่อพิจารณาความรับผิดทางละเมิดแล้วเสร็จ และส่งให้กระทรวงการคลัง หน่วยงานกำกับดูแลพ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่พ.ศ.2539 พิจารณาต่อแล้วตั้งแต่ปีที่ผ่านมา
2.ฟ้องอาญาทุจริต ผู้ที่ถูกชี้มูลทั้งหมด และ3.ฟ้องอาญาฟอกเงินและแพ่ง ผู้ที่ถูกชี้มูลทั้งหมด ซึ่งอคส. ได้ประสาน ป.ป.ช เพื่อขอข้อมูลการชี้มูลแล้ว จากนั้นจะส่งมอบให้ ปปง.ดำเนินการ รวมถึงยึดทรัพย์สินทางของผู้กระทำผิดจากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน โดยเป็นเงินที่อคส.ได้จ่ายเป็นค่ามัดจำล่วงหน้าการผลิตถุงมือยางให้กับบริษัท การ์เดียนโกลฟส์ รวม 2,000 ล้านบาท
สำหรับวงเงินความเสียหายของอคส.นั้น เบื้องต้นเป็นจำนวนเงิน 2,000 ล้านบาท ยังไม่รวมดอกเบี้ย ที่พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ อดีตรักษาการผู้อำนวยการอคส. และพวกได้ร่วมกันถอนออกจากบัญชี อคส.แล้วนำไปจ่ายเป็นเงินมัดจำถุงมือยางให้กับบริษัท การ์เดียน โกลฟส์ ผู้รับจ้างผลิตให้กับอคส.
“การจะได้คืนวงเงินดังกล่าว มี 2 ทาง คือ ทางแรก จาก ป.ป.ช. ที่ก่อนหน้านี้ ได้อายัดบัญชีของบริษัท การ์เดียน โกลฟส์ไว้ได้เงินจำนวน 550 ล้านบาทจาก 2,000 ล้านบาท และที่ดินอีก 33 ไร่ ตามที่เป็นข่าวไปแล้ว และทางที่สอง จากการดำเนินการของปปง. ซึ่งจากการประสานภายในกับปปง. พบว่า ยังพบทรัพย์อีกจำนวนหนึ่งนอกเหนือจากบัญชีที่ ป.ป.ช.อายัดไว้ แต่ปปง. ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยอคส. จะร่วมมือกับ 2 หน่วยงานเพื่อ ยึดทรัพย์ กลับมาเป็นของ อคส. โดยเร็วต่อไป”
ทั้งหมดนี้นี่คือมหากาพย์การทุจริตในอคส. ซึ่งอคส.สามารถสะสางโครงการรับจำนำข้าวโพดและมันสำปะหลังตั้งแต่ปี 2551 เสร็จสิ้นและโครงการจำนำข้าวอยู่ระหว่างการส่งมอบให้เสร็จสิ้นภายในเดือนก.ย.นี้ โดยการสะสางทุจริตช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของ อคส. ดีขึ้นมากจากการประเมินธรรมภิบาลและความโปร่งใส (ITA) ของ ป.ป.ช. ทำให้ อคส. สอบผ่านเกณฑ์ทั้ง 2 ปี ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ไม่เคยผ่านเกณฑ์การประเมินเลย