'ปตท.' ชี้ ราคาแอลเอ็นจีนำเข้าเหลือ 9 ดอลลาร์ ช่วยกด 'ค่าไฟ' ปลายปี 66 ถูกลง
"ปตท." ระบุ ราคาสปอตแอลเอ็นจีลดลงเหลือ 9 ดอลลาร์ ช่วยกดราคาค่าไฟปลายปีนี้ถูกลง ชูธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย ช่วยเสริมแกร่งพลังงานไทย สู่ธุรกิจใหม่เพื่อเป้าหมาย การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
นายพงษ์พันธุ์ อมรวิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาพลังงานตลาดโลกว่า ขณะนี้สถานการณ์ราคาพลังงานเริ่มคลี่คลายลง โดยเฉพาะราคาก๊าซธรรมชาติเหลวตลาดจร (สปอตแอลเอ็นจี) ราคาซื้อขายเดือนมิถุนายนลดลงเหลือระดับ 9 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู ขณะที่ช่วงปลายปีนี้ คาดว่าราคาจะอยู่ระดับใกล้เคียง เนื่องจากสต็อกแอลเอ็นจีทั่วโลกขึ้นไประดับ 60% ไม่เกิดภาวะขาดแคลนเหมือนช่วงภาวะสงครามในช่วงที่ผ่านมา จนทำให้ราคาเคยทำสถิติพุ่งสูงถึง 80 ดอลลาร์ ขณะที่ประเทศไทยซื้อได้ในราคา 40 ดอลลาร์ ซึ่งถือว่าเป็นระดับสูงเช่นกัน ดังนั้น น่าจะเป็นข่าวดีสำหรับค่าไฟของไทยงวดปลายปี 2566 ให้ราคาถูกลง เพราะใช้เชื้อเพลิงแอลเอ็นจีผลิตไฟฟ้าค่อนข้างมาก
"ราคาสปอตแอลเอ็นจีที่ปตท. ซื้อได้เฉลี่ยไม่เกิน 15-20 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู ซึ่งระดับ 9 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู ถือเป็นสัญญาที่ดี แต่ยังต้องจับตาอย่างใกล้ชิด โดยปตท.ได้ทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าจำนวนหนึ่งแล้ว แต่ซื้อมากไม่ได้ เพราะคลังเก็บไม่เพียงพอ ต้องซื้อในระดับเหมาะสม" นายพงษ์พันธุ์กล่าว
สำหรับราคาน้ำมันดิบตลาดโลกล่าสุดอยู่ระดับ 75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล คาดว่าช่วงครึ่งปีหลังจะอยู่ระดับ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยราคาไม่หวือหวาสูงขึ้นอย่างที่หลายฝ่ายคาดการณ์ เนื่องจากความกังวลเศรษฐโลกชะลอตัว และเศรษฐกิจจีนยังไม่หวือหวาหลังเปิดประเทศ
โดยหน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ มีสำนักงานการค้าอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ของทุกภูมิภาคทั่วโลก โดยในปี 2565 ที่ผ่านมา มีปริมาณการค้ารวมมากกว่า 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ครอบคลุมมากกว่า 70 ประเทศทั่วโลก และมีการจัดหาพลังงานทั้งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเหลวจากหลากหลายภูมิภาคทั่วโลก เพื่อรองรับความต้องการพลังงานของประเทศ ตอบโจทย์โลกพลังงานที่กำลังจะเปลี่ยนไปในอนาคต
นอกจากนี้ ยังแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ อาทิ การเข้าสู่ตลาด Carbon Credit Trading และการค้าเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) เป็นต้น ซึ่งจะเป็นหนึ่งในกลไกที่ช่วยขับเคลื่อนกลุ่ม ปตท. และประเทศไทยเพื่อบรรลุเป้าหมาย Net Zero Emissions ปี 2050 ตามที่กำหนดไว้
นายนพดล ปิ่นสุภา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย ปตท. กล่าวว่า กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย ปตท. ได้แก่ ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น และธุรกิจน้ำมันและค้าปลีก มีผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ปี 2566 คิดเป็น 31% ของกำไรสุทธิของ ปตท. หรือ 8,748 ล้านบาท ที่ผ่านมาจากวิกฤตราคาพลังงานจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย ได้จัดหาแอลเอ็นจีตลาดจรช่วงเวลาเร่งด่วน จัดหาและสำรองน้ำมันดิบ ปรับการผลิตไฟฟ้าด้วยน้ำมัน
นายประสงค์ อินทรหนองไผ่ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารกลยุทธ์กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย เปิดเผยว่า ปตท. ได้ดำเนินกลยุทธ์การดำเนินงานผ่านความร่วมมือภายในกลุ่ม ปตท. เพื่อคงความสามารถในการแข่งขันให้กับธุรกิจเดิม (Hydrocarbon based) และเป็นฐานต่อยอดธุรกิจใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง (Advance Materials & Specialty Chemicals) ที่สอดคล้องกับการเติบโตตามกระแสโลก โดยสามารถเชื่อมโยงและเติมเต็มห่วงโซ่อุปทาน (Value Chain) ธุรกิจใหม่ ของกลุ่ม ปตท.
รวมถึงเพิ่มสัดส่วนธุรกิจคาร์บอนต่ำและธุรกิจใหม่ที่ไกลกว่าพลังงาน นอกจากนั้น ยังมีการนำเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือช่วยเสริมการบริหารจัดการเพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจให้แก่ภาครัฐ อาทิ การใช้ระบบดิจิทัลมาวางแผนการผลิตน้ำมันในประเทศด้วยระบบดิจิทัล ผ่าน Hydrocarbon Value Chain Collaboration Center รวมถึงเครื่องมือในการบริหารจัดการทางเลือกใช้เชื้อเพลิงของประเทศในภาวะราคาพลังงานผันผวน เป็นต้น