'ครม.' ชง 'กกต.' ขอใช้งบฯ 3.4 พันล้าน จ่ายประกันรายได้ชาวสวนปาล์ม
ครม. ชง กกต.ขอใช้งบกลางฯ 3.4 พันล้าน จ่ายประกันรายได้ชาวสวนปาล์ม บริหารจัดการส่งออกปาล์มน้ำมันดิบ และประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ปี 2565-2566
นายอนุชา บูรพชัยศรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบสรุปมติการประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ที่มี พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม
ซึ่งได้เห็นชอบโครงการผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มเพื่อลดผลผลิตส่วนเกิน ปี 2566 จากการคาดการณ์ว่า ปริมาณน้ำมันดิบที่ผลิตอาจได้มากกว่าความต้องการใช้ในแต่ละเดือน เนื่องจากความต้องการใช้ในประเทศยังไม่กลับสู่สภาวะปกติ อาจส่งผลต่อเสถียรภาพของราคาและกระทบต่อรายได้
โดยสนับสนุนค่าบริหารจัดการการส่งออกเฉพาะปาล์มน้ำมันดิบ 150,000 ตัน จากงบกลางฯ 309 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าบริหารจัดการ ในอัตรากิโลกรัมละ 2 บาท รวมเป็น 300 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานของส่วนราชการ 9 ล้านบาทเมื่อระดับสต็อก น้ำมันปาล์มดิบในประเทศสูงกว่า 300,000 ตัน และราคาน้ํามันปาล์มดิบในประเทศสูงกว่าราคาตลาดโลก
ทั้งนี้ เพื่อให้การบริหาร จัดการมีความยืดหยุ่นและทันต่อเหตุการณ์ เห็นควรกําหนดให้ เงื่อนไขระดับสต็อกน้ํามันปาล์มดิบขั้นต่ำไว้ที่ 250,000 ตัน และ กนป. เป็นผู้มีอํานาจในการพิจารณา
ขณะดียวกัน เห็นชอบโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ปี 2565-2566 ในกรณีที่ราคาขายปาล์มน้ํามัน ในประเทศตกต่ำผ่านการประกันราคาปาล์มน้ํามัน ได้แก่ ผลปาล์มทะลาย อัตราน้ำมัน 18% ราคา กก. ละ 4 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ไร่ และต้องเป็นพื้นที่ปลูกต้นปาล์มที่ให้ผลผลิตแล้ว โดยจะจ่ายเงินชดเชย ส่วนต่างระหว่างราคาเป้าหมายกับราคาตลาดอ้างอิงให้แก่เกษตรกร ทุก 30 วัน ใช้งบประมาณ 3,133.17 ล้านบาท
โดยให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์( ธ.ก.ส.) สํารองจ่าย ขอรับจัดสรรงบฯ ประจําปี เพื่อให้รัฐบาลชําระคืนตามที่เกิดขึ้นจริง แบ่งเป็น วงเงินชดเชยส่วนต่างรายได้ 3,075.00 ล้านบาท และวงเงินบริหารจัดการของ ธ.ก.ส. 58.17 ล้านบาท ระยะเวลาการจ่ายเงิน เดือน ก.ย. 2565 – ส.ค.2566 โดยระยะเวลาโครงการ เดือน ก.ย. 2565 ทางธ.ก.ส. ได้รับการชดเชยงบฯ ตามที่ทดรองจ่าย
ทั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดําเนินโครงการฯ ให้เป็นไปตามระเบียบ กกต. ว่าด้วยการใช้ทรัพยากรของรัฐหรือบุคลากรของรัฐเพื่อกระทําการใดซึ่งจะมีผลต่อการเลือกตั้ง พ.ศ. 2563 รวมถึงพิจารณากรอบวงเงินงบฯ ตามความจําเป็นและเหมาะสม ตาม ม. 28 แห่ง พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ด้วย