ศุลกากรแจง 'วิโรจน์ ลักขณาอดิศร' โปร่งใสทำลายหมูเถื่อน 4 พันตัน
อธิบดีกรมศุลกากร แจงว่าที่ ส.ส.วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ปมเนื้อหมูเถื่อนกว่า 4 พันตัน ส่งปศุสัตว์ดำเนินการทำลาย ชี้ คืบหน้าต่อเนื่อง เป็นไปตามขั้นตอน แจงเหตุล่าช้า เพราะรูปแบบคณะกรรมกร ต้องใช้เวลา ชี้ 1 ปี ยึดเนื้อหมูเถื่อนได้กว่า 5 ล้านตัน
นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยถึงกรณีการทำลายเนื้อหมูเถื่อนที่นำเข้ามาจากอเมริกาใต้ และยุโรป ผ่านท่าเรือศุลกากรแหลมฉบัง และยึดตู้คอนเทนเนอร์ไว้ตรวจสอบ 161 ตู้ และได้ส่งให้ปศุสัตว์จังหวัดชลบุรี ดำเนินการทำลายไปแล้ว 159 ตู้ น้ำหนักกว่า 4,313 กิโลกรัม เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ที่ผ่านมา
นายพชร ระบุว่า กรมศุลกากรเฝ้าระวังการลักลอบนำเนื้อหมูเถื่อนเข้ามาในไทยกว่า 1 ปีแล้ว และได้อายัดไว้กว่า 200 ตู้คอนเทนเนอร์ พร้อมสั่งทำลายไปแล้วบางส่วน ซึ่งเนื้อหมูที่ถูกลับลอบนำเข้ามานี้ สำแดงว่าเป็นปลาแช่แข็ง จึงสั่งให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาทำงานร่วมกันตรวจสอบข้อเท็จจริง และสืบหาผู้ที่นำเข้า บริษัทชิ้ปปิ้งทั้งหมด แต่ยังไม่มีผู้แสดงตัวเป็นเจ้าของ
เบื้องต้น กรมศุลฯถอนใบอนุญาตบริษัทชิ้ปปิ้งที่เกี่ยวข้องกรณีดังกล่าวไปแล้ว และตามปกติกรมศุลฯ ไม่สามารถเปิดตรวจสอบตู้สินค้าเองได้ ยกเว้นตรวจพบว่าเป็นยาเสพติดและอาวุธสงคราม จึงต้องอายัดไว้ก่อนเป็นเวลา 30 วันและขยายเวลาได้อีก 15 วัน หรือในขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 60 วัน เพื่อแจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบพร้อมแจ้งเจ้าของสินค้า แต่เมื่อไม่มาติดต่อสามารถเปิดได้ ซึ่งเจ้าของสินค้าผู้นำเข้าจะต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งค่าไฟฟ้าที่ใช้กับตู้แช่ และเช่าสถานที่ค่าวางสินค้าทั้งหมด จึงทำให้มีความล่าช้าในการตรวจสอบ
ส่วนกรณีนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล ออกมาเปิดเผยว่า กรมศุลฯใช้เวลานานในการตรวจสอบและอาจมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง นายพชร ระบุว่า ที่ผ่านมา กรมศุลฯดำเนินการมาโดยตลอดแต่ไม่ได้มาแถลงถึงความคืบหน้า เนื่องจากของกลางเป็นเนื้อหมูที่ไม่ใช่ยาเสพติดที่มีมูลค่าความเสียหายสูง และส่วนที่ทำลายไปแล้วก็ส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ดำเนินการ และชี้แจงผ่านเว็บไซต์ของกรมศุลกากร ยืนยันว่าไม่มีความล่าช้า แต่ทำต้องตามขั้นตอน
อธิบดีกรมศุลกากร ยังระบุว่า สำหรับการตรวจสอบของกรมศุลฯ กรณีพบเป็นเนื้อหมู ค่อนข้างที่จะตรวจยึดได้ยาก แต่จะพบได้ก็ต่อเมื่อผู้นำเข้ามา เข้าระบบพิธีทางศุลกากรที่จะต้องมาสำแดงสินค้า แต่หากตรวจพบว่าไม่ตรงกับที่สำแดงจึงจะพบของกลาง ที่ผ่านมา ก็สามารถยึดเนื้อหมูเถื่อนไว้ตรวจสอบได้กว่า 5 ล้านตัน