ราคาทองฟิวเจอร์ร่วงเกือบ 3 ดอลล์ กังวลเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย

นอกจากนี้ ราคาทองถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น

สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ส่งมอบเดือนส.ค. ลบ  2.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,944.90 ดอลลาร์/ออนซ์

ทั้งนี้  สำนักข่าวหลายแห่งได้ทำการเผยแพร่ล่วงหน้าสำหรับร่างแถลงการณ์ที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เตรียมกล่าวต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.00 น.ตามเวลาไทย ก่อนที่จะกล่าวต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภา

ทั้งนี้ นายพาวเวลมีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้

สื่อรายงานว่า แถลงการณ์ระบุว่า นายพาวเวลจะส่งสัญญาณว่าเฟดจะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จนกว่าจะมีความคืบหน้ามากขึ้นเกี่ยวกับการชะลอตัวของเงินเฟ้อ

นอกจากนี้ นายพาวเวลยังกล่าวว่า การประกาศคงอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมนโยบายการเงินเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เป็นเพียงการพักการดำเนินการด้านอัตราดอกเบี้ยเพียงชั่วคราว มากกว่าที่จะบ่งชี้ว่าเฟดได้ยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

"กรรมการเกือบทุกท่านใน FOMC มองว่าเป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปภายในปลายปีนี้" นายพาวเวลกล่าว พร้อมเสริมว่า เงินเฟ้อได้ชะลอตัวลง แต่ยังคงอยู่เหนือเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% ซึ่งทำให้เฟดยังคงมีงานที่จะต้องทำ

นายพาวเวลยังระบุว่า การทำให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวลง จำเป็นที่เศรษฐกิจจะต้องชะลอตัวลงต่ำกว่าระดับแนวโน้ม

นอกจากนี้ ประธานเฟดย้ำว่าการตัดสินใจด้านอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับข้อมูลที่เฟดได้รับในการประชุมแต่ละนัด มากกว่าที่จะมีการตั้งธงกำหนดแนวทางไว้ล่วงหน้า

นักวิเคราะห์จากคอมเมิร์ซแบงก์ปรับลดคาดการณ์ราคาทองในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 โดยคาดว่าราคาทองจะอยู่ที่ระดับ 2,000 ดอลลาร์ จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 2,050 ดอลลาร์

คอมเมิร์ซแบงก์ระบุว่า ราคาทองถูกกดดันจากการคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ค. และจะไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

ทั้งนี้ การดีดตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย