'พลังงาน' ชูนวัตกรรมหนุนวิสาหกิจฯ 'เลี้ยงจิ้งหรีด'อย่างไร? ให้ได้กำไร
กระทรวงพลังงาน ดันการใช้เทคโนโลยีประหยัดพลังงานในวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเศรษฐกิจพอเพียงเลี้ยงจิ้งหรีดบ้านแสนตอ จ.ขอนแก่น ช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายของวิสาหกิจฯ และสามารถลดค่าไฟได้ถึง 50%
นายสุรเดช เหลาพันนา พลังงานจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า การสนับสนุนเทคโนโลยีพลังงานให้กับวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเศรษฐกิจพอเพียงเลี้ยงจิ้งหรีดบ้านแสนตอ เป็นอีกกลุ่มวิสาหกิจที่ได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนเทคโนโลยีพลังงานเพื่อลดต้นทุนการผลิต เพิ่มรายได้แก่ชุมชน ในโครงการสถานีพลังงานชุมชนองค์การบริหารส่วนตำบลบัวใหญ่ อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ภายใต้กลุ่มเศรษฐกิจฐานราก ถือเป็นแหล่งผลิตใหญ่ที่สุดของประเทศไทย มีปริมาณการผลิตจิ้งหรีดรวมประมาณ 50 - 60 ตัน/เดือน
โดยจิ้งหรีดถูกจัดเป็นแมลงเศรษฐกิจตัวใหม่ที่สร้างรายได้แก่ประเทศและเกษตรกรของไทยในระยะยาว เนื่องจากองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO: Food and Agriculture Organization) ได้จัดให้แมลงเป็นแหล่งอาหารในอนาคตของโลก โดยปัจจุบันในภาพรวมของประเทศ มีการส่งออกจิ้งหรีดทั้งในรูปแบบจิ้งหรีดผง จิ้งหรีดแปรรูป และจิ้งหรีดแช่แข็ง
ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมการผลิตจิ้งหรีดของชุมชนให้มีประสิทธิภาพ สามารถลดต้นทุนการผลิต และสร้างรายได้เพิ่มขึ้น องค์การบริหารส่วนตำบลบัวใหญ่ ได้รับการสนับสนุนเทคโนโลยีพลังงาน ได้แก่ ระบบอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 3 x 4 เมตร จำนวน 1 ระบบ เพื่อลดระยะเวลาในการตากแผงไข่ ระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบ On Grid ขนาด 10 กิโลวัตต์ สำหรับห้องเย็นที่มีส่วนช่วยลดค่าไฟฟ้าลงได้เกือบ 50% รวมทั้งชุดครอบและหัวเตาแก๊สประสิทธิภาพสูงจำนวน 4 ชุด เพื่อช่วยลดค่าก๊าซหุงต้มลง
นายเพ็ชร วงศ์ธรรม ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเศรษฐกิจพอเพียงเลี้ยงจิ้งหรีดบ้านแสนตอ กล่าวว่า วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเศรษฐกิจพอเพียงเลี้ยงจิ้งหรีดบ้านแสนตอ ก่อตั้งเมื่อปี 2558 รวมสมาชิก 31 คน ถือเป็นแหล่งผลิตจิ้งหรีดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและปริมาณความต้องการสินค้ายังมีในปริมาณที่สูง โดยมีการส่งจิ้งหรีดสด และจิ้งหรีดแช่เข็ง ซึ่งขั้นตอนการเก็บรักษาคุณภาพจิ้งหรีดในห้องเย็น ต้องผ่านกระบวนการทำความสะอาด และการต้มให้สุกก่อน หลังจากต้มสุกแล้วนำจิ้งหรีดไปตากผึ่งให้แห้งหมาดๆ และทำการบรรจุถุง นำเข้าไปเก็บในห้องเย็นเพื่อรักษาคุณภาพ
"การต้มจิ้งหรีดใช้ก๊าซหุงต้มทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาไม่แน่นอน ซึ่งการได้รับการสนับสนุนเทคโนโลยีพลังงานมีส่วนช่วยลดต้นทุนจากกระบวนการผลิต อาทิ การนำระบบอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ช่วยให้สินค้ามีความสะอาด และลดระยะเวลาในการตาก"
ทั้งนี้ กลุ่มวิสาหกิจฯ ได้รับจิ้งหรีดจากสมาชิกที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นส่งมาเข้ากระบวนการผลิตและส่งจำหน่ายในแต่ละครั้งประมาณ 8 – 9 ตัน/ครั้ง สัปดาห์ละ 1 - 2 ครั้ง ปริมาณรวมผลิตได้ประมาณ 50 - 60 ตัน/เดือน ซึ่งชุมชนได้จำหน่ายราคา 85,000 บาท/ตัน รายได้รวมประมาณ 4 – 5 ล้านบาท/เดือน โดยผลิตให้แก่บริษัท รับขายส่งเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์รายใหญ่ในจังหวัดขอนแก่น และลูกค้ารายย่อยที่จังหวัดสุโขทัย และจังหวัดอุดรธานี
สำหรับภาพรวมของการส่งเสริมด้านพลังงาน ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ตามแผนปฏิบัติราชการด้านพลังงานปี 2566-2570 มุ่งสู่การเป็นเมืองพลังงานอัจฉริยะ คาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืนและปลอดภัย โดยเน้นการส่งเสริมการเข้าถึงนวัตกรรมและการบริหารจัดการด้านพลังงานที่ทันสมัยเชิงพื้นที่ และสนับสนุนส่งเสริมการดำเนินการด้านพลังงาน เพื่อความยั่งยืน มั่นคงและปลอดภัย โดยจังหวัดขอนแก่นมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (PEAK) 320.93 เมกะวัตต์ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าโดยรวม 941.12 เมกะวัตต์ มีศักยภาพด้านการผลิตมากกว่าความต้องการใช้พลังงานอยู่ถึง 620.19 เมกะวัตต์ คิดเป็น 65.89%
ทั้งนี้ สำนักงานพลังงานจังหวัดขอนแก่นมีการสนับสนุนส่งเสริมด้านพลังงานเพื่อลดต้นทุนการผลิตให้แก่กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชนในเชิงพื้นที่ เช่น ระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์บ่อบาดาล จำนวนมากกว่า 700 แห่ง ระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์เคลื่อนที่ ขนาดไม่น้อยกว่า 320 วัตต์ จำนวน 25 คัน ระบบอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 3 x 4 เมตร จำนวน 29 แห่ง ระบบอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 2 x 2 เมตร จำนวน 25 แห่ง เป็นต้น
โดยภาพรวมสำนักงานพลังงานจังหวัดขอนแก่นให้การส่งเสริมสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนหรือเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานประมาณ 2,882,975 kWh/ปี หรือเทียบเท่า 245.94 toe/ปี คิดเทียบเป็นค่าใช้จ่ายสามารถลดต้นทุนการผลิตให้แก่กลุ่มเกษตรกร/วิสาหกิจจำนวน 14,126,577 บาท/ปี สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 482.04 tons of CO2e/ปี